Friday, 29 March 2024
NEWSFEED

พิษมรสุมใต้! เกษตรกรเกาะยอเฝ้าระวังน้ำแปลง ปลากะพงขาวเสี่ยงตายยกกระชัง

เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากะพงขาวในกระชัง เฝ้าระวังปลากะพงขาวในกระชังอย่างใกล้ชิด หลังจังหวัดสงขลาอยู่ในช่วงฤดูมรสุมลมตะวันออกเฉียงเหนือของภาคใต้ สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงมีฝนตกทุกวัน จะต้องเฝ้าระวังและดูแลปลาที่เลี้ยงให้ระวังเรื่องอาหารและโรค รวมทั้งระดับน้ำที่สูงขึ้นด้วย

วันนี้ (16 ธ.ค.) นายจารึก กาลานุสนธ์ เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากะพงขาวในกระชัง หมู่ที่ 1 ต.เกาะยอ อ.เมือง จ.สงขลา ซึ่งเลี้ยงปลากะพงขาวมาเป็นเวลานานกว่า 15 ปี มีความชำนาญและมีประสบการณ์ในการเลี้ยงปลาในช่วงหน้าฝนที่ต้องเจอทุกปีในช่วงนี้ เลี้ยงปลาทั้งหมดกว่า 10 กระชัง ทั้งปลาขนาดเล็กและปลาขนาดใหญ่ ได้เฝ้าระวังและดูแลปลากะพงขาวที่เลี้ยงในกระชังอย่างใกล้ชิด หลังจากมีการแจ้งเตือนจากกรมประมง ในฤดูมรสุม สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงมีฝนตกทุกวันจะต้องเฝ้าระวังและดูแลปลาที่เลี้ยง ให้ระวังเรื่องอาหารและโรค รวมทั้งระดับน้ำที่สูงขึ้น

เนื่องจากในช่วงนี้เป็นช่วงฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือของภาคใต้ มีฝนตกชุก ความเค็มของน้ำเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากะพงขาวในกระชังต้องระวัง เนื่องจากความต้านทานเชื้อของปลาจะลดน้อยลงในช่วงนี้ การให้อาหารปลาจะต้องลดลง

ลมหนาวมาแล้วนะ! นายกฯ ห่วง ปชช. แนะดูแลสุขภาพ เตรียมรับมืออากาศหนาว 17-20 ธ.ค.

เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ห่วงใยพี่น้องประชาชนในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง ซึ่งหลายพื้นที่มีอากาศหนาวเย็นอุณหภูมิลดลง หลังกรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศ ระบุว่า ในช่วงวันที่ 17-20 ธ.ค.นี้ บริเวณความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงอีกระลอกจากประเทศจีน จะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาว และอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 6-8 องศาเซลเซียส บริเวณพื้นราบอุณหภูมิต่ำสุด 10-18 องศาเซลเซียส

ส่วนบริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 2-10 องศาเซลเซียส สำหรับภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 15-21 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย

เคาะขึ้นค่าไฟภาคเอกชน ส่วนครัวเรือนยังตรึงไว้ 4.72 บาทต่อหน่วย

นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า ที่ประชุม กกพ. เห็นชอบการคำนวณค่า Ft ประจำเดือนมกราคม – เมษายน 2566 โดยคิดค่าไฟฟ้าสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่อัตรา 93.43 สตางค์ต่อหน่วย ทำให้เมื่อรวมค่าไฟฟ้าฐาน ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยอยู่ในระดับเท่าเดิมที่อัตรา 4.72 บาทต่อหน่วย

ส่วนผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทอื่น คิดที่อัตรา 190.44 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งจะมีค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่อัตรา 5.69 บาทต่อหน่วย หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 21%

เด็กชาวเลปาดน้ำตาต่อหน้า เลขาฯ ธัชชญาณ์ณัช ติดตามกรณีชุมชนชาวเลหลีเป๊ะ ได้รับความเดือดร้อนจากการปิดกั้นทางสัญจรบนเกาะโดยด่วน

วันนี้ 15 ธันวาคม 2565 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับทราบและมีความกังวลถึงความเดือดร้อนข้อพิพาทกรณีที่ดินบนเกาะหลีเป๊ะตามที่เป็นข่าว จึงมีบัญชาผ่านพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่เพื่อติดตาม การแก้ปัญหาปิดกั้นทางสัญจรสาธารณประโยชน์ชุมชนชาวหลีเป๊ะ จ.สตูลอย่างเร่งด่วน ซึ่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและคณะ ได้มีกำหนดลงพื้นที่ในระหว่างวันที่ 14-15 ธันวาคม 2565

โดยเมื่อวานนี้วันนี้ 14 ธันวาคม 2565 รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐ ได้มอบหมายให้ นายธัชชญาณ์ณัช เจียรนัทกานนท์ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายอนุชา นาคาศัย) พร้อมด้วย นายอิทธิพล ช่างกลึงดี ผู้ช่วยปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ชุมชนชาวเลหลีเป๊ะ เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล เพื่อติดตามและรับฟังข้อมูลข้อเท็จจริงจากราษฎรในพื้นที่ และผู้แทนขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม กรณีการปิดกั้นเส้นทางสัญจรสาธารณประโยชน์ชุมชนชาวเลเกาะหลีเป๊ะ

ซึ่งประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากการปิดกั้นทางสัญจรในชุมชน ที่ชาวบ้านใช้สำหรับเดินทางไปโรงเรียน โรงพยาบาล สุสาน รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวสัญจรของนักท่องเที่ยว จากการลงพื้นที่ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้รับทราบถึงปัญหาความเดือดร้อนของกลุ่มชาวเลหลีเป๊ะ และได้เข้าติดตามบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว รวมถึงได้เข้าพบเด็กนักเรียนและผู้ปกครองของโรงเรียนเกาะหลีเป๊ะ

สุดประทับใจ!!! ครอบครัวและญาติผู้ป่วยวิกฤตสมองตาย ยินยอมบริจาคอวัยวะหัวใจ ตับ ไต ดวงตา ให้สภากาชาดไทย ต่อลมหายใจได้อีก 6 ชีวิต

เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. เพจเฟซบุ๊ก โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ เผยแพร่เรื่องราวสุดประทับใจแห่งปี 2565 หนึ่งชีวิตต่อลมหายใจ สร้างกุศลที่ยิ่งใหญ่ มอบอวัยวะให้กับอีก 6 ชีวิต ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น บริจาคอวัยวะประกอบด้วย หัวใจ, ตับ ,ไต 2 ข้าง ตับอ่อน และดวงตา 2 ข้าง เป็นกรณีตัวอย่าง ผู้ป่วยชายอายุ 28 ปี ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ได้รับบาดเจ็บทางสมองอย่างรุนแรง ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์

ทีมศัลยแพทย์ระบบประสาทและสมอง ได้พยายามดูแลผู้ป่วยอย่างเต็มที่ รักษาโดยการผ่าตัดสมอง ดูแลในหอผู้ป่วยวิกฤต แต่ไม่อาจรักษาให้สมองกลับฟื้นคืนมาได้ อยู่ในภาวะสมองตาย แต่สมรรถภาพของหัวใจ และอวัยวะอื่น ๆ ดีมาก ทีมพยาบาลที่ดูแลผู้ป่วยได้ปรึกษาหารือกับบิดา มารดา และญาติผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด ถึงแนวทางการรักษา และโอกาสที่สมองจะกลับฟื้นคืนมามีน้อยมาก จึงได้ขอรับบริจาคอวัยวะให้กับศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยที่รอคอยการปลูกถ่ายอวัยวะ

เมื่อญาติที่อยู่กันอย่างพร้อมเพรียงได้ตัดสินใจบริจาค ทางโรงพยาบาลได้ประสานไปยังสภากาชาดไทย เพื่อเตรียมทีมแพทย์ พยาบาล เครื่องมืออุปกรณ์มาเก็บอวัยวะ รวมถึงการเตรียมผู้ที่รอคอยการปลูกถ่าย โดยเฉพาะหัวใจ ที่ถือเป็นอวัยวะสำคัญ มีเวลาในการขนย้ายเพียง 4 ชั่วโมง การวางแผนในทุกขั้นตอนจึงสำคัญมาก เนื่องจากการเดินทางจากโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ไปยังกรุงเทพมหานคร หากเดินทางโดยรถยนต์ใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมง ถ้าการจราจรติดขัด อาจมากกว่า 5 ชั่วโมง และไม่มีสายการบินพาณิชย์ให้เดินทางได้ มีเพียงสนามบินกองทัพอากาศ กองบิน 5 อ่าวมะนาว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีเพียงเครื่องบินเล็กเท่านั้นที่สามารถบินขึ้นลงได้ การขนย้ายหัวใจ จึงต้องเดินทางทางอากาศยาน เท่านั้นถึงจะทันการผ่าตัดปลูกถ่าย

กรม ทช. ลงพื้นที่ติดตาม-ตรวจสอบชุมชนหน้าองค์การสะพานปลา (เกาะสิเหร่) ตำบลรัษฎา จังหวัดภูเก็ต

วันที่ 9 ธันวาคม​ 2565 เวลา 08.30 น. นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (อทช.) ได้มอบหมายให้กองป้องกันและปราบปราม ชุดปฏิบัติการพิเศษที่ 10 สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 10 ร่วมกับศูนย์​อำนวยการรักษาผลประโยชน์​ของชาติทางทะเล​จังหวัด​ภูเก็ต​ (ศรชล.จังหวัด​ภูเก็ต)​ เจ้าหน้าที่​จากเทศบาลตำบลรัษฎา​ ผู้ใหญ่​บ้าน​ และผู้นำชุมชน​ ลงพื้นที่​ชุมชน​หน้าองค์การ​สะพาน​ปลา (เกาะสิเหร่)​ ตำบลรัษฎา​ อำเภอเมือง​ จังหวัดภูเก็ต​ เพื่อตรวจ​สอบการบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนบริเวณโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน​ คทช.ชุมชน​หน้าองค์การ​สะพาน​ปลา (เกาะสิเหร่)​

จากการลงพื้นที่ตรวจสอบในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ศูนย์บริหารจัดการทรัพยากรป่าชายเลน จังหวัด​ภูเก็ต​ ได้ดำเนินการปักหลักเขตชั่วคราว และแสดงแนวเขตพื้นที่เป้าหมาย​โครงการ​ คทช​. ของชุมชน​หน้าองค์การ​สะพาน​ปลา (เกาะสิเหร่) ​แล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้มีการบุก​รุกเพิ่มเติม​ จากการตรวจสอบพบมีสิ่งปลูกสร้าง​ มีลักษณะ​เป็นบ้านพักอาศัยจำนวน​ 1 หลัง​ ที่อยู่​นอกขอบเขตพื้นที่ กำหนดเป็นเป้าหมาย​โครงการ​ คทช.​​ แต่อยู่​ในหลักเกณฑ์​ที่จะนำมาดำเนินโครงการ​ คทช.ได้​

สตูล ร่วมบูรณาการกว่า 20 หน่วยงาน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมหาแนวทางแก้ไขปัญหากรณีพิพาท เรื่องการปิดกั้นเส้นทางบนพื้นที่เกาะหลีเป๊ะ

ที่ห้องประชุม ที่ทำการอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล มอบหมายให้ นายชาตรี ณ ถลาง ปลัดจังหวัดสตูล พร้อมด้วย นายธนพัฒน์ เด่นบูรณะ ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสตูล หัวหน้าส่วนราชการฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมบูรณาการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและหาแนวทางในการแก้ไขปัญหา กรณี ข้อพิพาทระหว่างเอกชนกับชาวเล บนพื้นที่เกาะหลีเป๊ะ อำเภอเมือง จังหวัดสตูล โดยมีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติตะรุเตา ร่วมให้ข้อมูลก่อนเดินลงพื้นที่

จากนั้น คณะได้ลงพื้นที่ไปยังชุมชนของชาวเลอูรักลาโว้ย และบริเวณพื้นที่ใกล้โรงเรียนบ้านเกาะหลีเป๊ะ อำเภอเมือง จังหวัดสตูล ที่ได้มีการร้องเรียนว่ามีการทำรั้วเหล็กปิดถนน บนเส้นทางที่ชาวบ้านบนเกาะใช้สัญจรไปมาอยู่เป็นประจำ ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก โดยชาวบ้านได้มีการตั้งเต็นท์ และแสดงข้อความคัดค้านเชิงสัญลักษณ์บนนถนนในชุมชน

กิจกรรมสร้างสรรค์! ทรภ.1 จับมือ ศรชล.และ ศคท.จว.ตราด จัดกิจรรมอบรมช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล สร้างความรู้ความเข้าใจให้พี่น้องประชาชน

ทรภ.1 ร่วมกับ ศรชล.และ ศคท.จว.ตราด อบรมช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล มอบความรู้ เพื่อช่วยชีวิต หนึ่งในกิจกรรมสร้างการรับรู้ผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยและความปลอดภัยทางทะเล โดยทัพเรือภาคที่ 1 (ทรภ.1) บูรณาการร่วมกับศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดตราด (ศรชล.จว.ตราด) และศูนย์ควบคุมท่าเรือจังหวัดตราด (ศคท.จว.ตราด)

โดยกิจกรรมดังกล่าว จัด ขึ้น ณ อาคารอเนกประสงค์ องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะหมาก ท่าเรืออ่าวนิด ตำบลเกาะหมาก อำเภอเกาะกูด จังหวัดตราด โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจาก องค์การบริหารส่วนจังหวัดตราด องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะหมาก ตำรวจท่องเที่ยว โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเกาะหมาก ชมรมกู้ภัยเกาะหมาก ผู้ประกอบการที่พักและร้านอาหาร ประชาชน นักท่องเที่ยวทั้งไทยและชาวต่างชาติ คณะครูและนักเรียน โรงเรียนเกาะหมาก รวม 100 คน

ปลุกพลังคนรุ่นใหม่ สร้างสรรค์โลกดิจิทัล ไปกับกิจกรรม DIGITAL YOUTH NETWORK THAILAND เยาวชนอาสาดิจิทัล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในโครงการ HACKaTHAILAND 2023 : DIGITAL INFINITY

กิจกรรมที่จะช่วยส่งต่อแนวคิด Digital Literacy เสริมสร้างเกราะป้องกันให้กับเยาวชน นักเรียน นักศึกษา พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้นำเยาวชนในโลกดิจิทัล ในหลักสูตร DIGITAL YOUTH NETWORK THAILAND เยาวชนอาสาดิจิทัล

โดยหลักสูตรในรอบ DIGITAL TRAINER มีวิทยากรที่มาร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้ แชร์ประสบการณ์ พร้อมเสริมสร้างทักษะในการปรับตัวบนโลกดิจิทัล อาทิ Introduction to Digital Youth Network, Digital Skill and Knowledge, 21st-Century Opportunity, Youth Leader New Gen และอื่น ๆ อีกมายมาย

✏️เปิดรับสมัคร วันนี้ – 10 ธันวาคม 2565
คลิกไปที่ https://forms.gle/g555mMnpTtRYXiic8
?ประกาศผลวันที่ 12 ธันวาคม 2565 (เพียง 50 คน เท่านั้น!)

โดยผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะต้องเข้ารับการอบรมเป็นเวลา 3 วัน 2 คืน ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 22-24 ธันวาคม 2565

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมทีมงาน SEED Thailand 0958158305

คนพิการเตรียมเฮ!! จุรินทร์ เคาะแก้ระเบียบบอร์ด “อำนวยความสะดวก-เข้าถึงสิทธิ เพิ่มจำนวนผู้ดูแล”

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชิวิตคนพิการแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.65 ซึ่งมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้มีการพิจารณาแก้ไขระเบียบ กพช. เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนพิการ และเพิ่มการคุ้มครองสิทธิคนพิการที่ไม่มีผู้ดูแลและสิทธิของผู้ดูแลคนพิการ โดยที่ผ่านมา นายจุรินทร์ ได้สั่งการให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พิจารณาการลดขั้นตอนในการเข้าถึงสิทธิการขอความช่วยเหลือจากภาครัฐ และการสนับสนุนการทำงานของผู้ดูแลคนพิการ

ทั้งนี้ กพช.ได้เห็นชอบให้มีการแก้ไขระเบียบ โดยมีสาระสำคัญ อาทิ
1. เพิ่มช่องทางการยื่นคำขอการปรับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย การขอคุ้มครองสิทธิ โดยสามารถแจ้งต่ออาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ประธานชุมชนองค์กรเอกชน หรือหน่วยบริการในพื้นที่ และสามารถยื่นคำขอหรือทำการแจ้งผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ ทำให้คนพิการสามารถเข้าถึงสิทธิได้มากขึ้นและสะดวกกว่าเดิมอย่างมาก
2. เพิ่มหน่วยงานในการฝึกอบรมผู้ช่วยคนพิการ โดยได้รับอุดหนุนงบประมาณจากกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ หรือกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ซึ่งจะทำให้มีจำนวนผู้ช่วยคนพิการมากขึ้น สอดรับความต้องการที่จำเป็นของคนพิการ
3. ผู้ช่วยคนพิการสามารถปฏิบัติงานเป็นรายชั่วโมงหรือรายวันตามความต้องการของคนพิการ เพื่อให้ผู้ช่วยคนพิการสามารถดูแลคนพิการตามความต้องการของคนพิการอย่างถูกต้อง


TRENDING
© Copyright 2022, All rights reserved. South Time Thailand
Take Me Top