Friday, 29 March 2024
NEWS

ผักในตลาด จ.สงขลา หลายชนิดเริ่มปรับราคา ส่งผลให้ปริมาณผักที่ส่งให้ลูกค้าต่างจังหวัดลดน้อยลง และยังมีแนวโน้มที่จะปรับราคาสูงขึ้น

วันนี้ (22 ธ.ค.65) ตลาดผักที่ตลาดทรัพย์สินพลาซ่า เขตเทศบาลนครสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา ขณะนี้ผักหลายชนิดเริ่มปรับราคาสูงขึ้น โดยเฉพาะผักบุ้งจีนราชบุรี จากเดิม กก.ละ 60 บาท ขึ้นเป็น กก.ละ 90 บาท, ถั่วฝักยาว จากเดิม กก.ละ 60 บาทขึ้นเป็น 80 บาท, ผักคะน้า จากเดิม กก.ละ 40-50 บาท ขึ้นเป็น 60 บาท, ผักกวางตุ้งจากเดิม กก.ละ 40 บาทขึ้นเป็น 50 บาท, มะเขือยาวจากเดิมกก.ละ 50 บาท ขึ้นเป็น 80 บาท, มะเขือเปราะจากเดิม กก.ละ 50 บาทขึ้นเป็น 60 บาท, ส่วนผักชียังคงราคาเดิม กก.ละ 250 บาท, ต้นหอมยังคงราคากก.ละ 150 บาท และผักขึ้นฉ่ายยังคงราคา กก.ละ 150 บาท

สำหรับสาเหตุที่ผักปรับขึ้นราคาในช่วงนี้ ทางเอเยนต์ได้ปรับราคาขึ้นมาจากต้นทางคาดว่า แหล่งปลูกผักในภาคกลาง หลายจังหวัดฝนตกและน้ำท่วมแปลงปลูกผัก ส่งผลให้ปริมาณผักที่ส่งให้ลูกค้าต่างจังหวัดลดน้อยลง ตอนนี้ของได้มาน้อย ก็มีการปรับราคาขึ้นตามสถานการณ์

สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดชุมพร KICK OFF เร่งขับเคลื่อนโครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัยจากโรคพิษสุนัขบ้า "ครอบครัวปศุสัตว์ ทำด้วยใจ ทำให้ไว ทำได้จริง"

เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2565 นำโดย นายสัตวแพทย์สมศักดิ์ จิตตวิสุทธิ์วงศ์ ปศุสัตว์จังหวัดชุมพร พร้อมด้วย หัวหน้ากลุ่ม/ฝ่ายปศุสัตว์อำเภอทุก อำเภอหัวหน้าด่านกักกันสัตว์ชุมพร พร้อมเจ้าหน้าที่ร่วมกับเทศบาลเมืองชุมพร นำโดย นายศรีชัย วีระนรพานิช นายกเทศมนตรีเมืองชุมพร ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมเทศบาลเมืองชุมพร พร้อมเจ้าหน้าที่ออกหน่วยให้บริการผ่าตัดทำหมัน และฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้กับสุนัขและแมว (KICK OFF) ณ วัดชุมพรรังสรรค์ (วัดเหนือ) ซึ่งเป็นวัดอารามหลวง

ภายใต้โครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัยจากโรคพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธาน ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ปีงบประมาณ 2566 เพื่อเร่งการขับเคลื่อนให้จังหวัดชุมพร เป็นจังหวัดปลอดโรคพิษสุนัขบ้า ในการดำเนินงานในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีและด้วยดีเสมอมา โดยการสนับสนุนจากเทศบาลเมืองชุมพรในเรื่องของอาหารกลางวัน น้ำ อาคารสถานที่ในการดำเนินการพร้อมเจ้าหน้าที่

กอ.รมน.ชุมพร ปฎิบัติการสร้างแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สร้างเครือข่ายเชื่อมโยงช่วยเหลือประชาชน

เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กอ.รมน.จังหวัดชุมพรได้จัดกิจกรรม โครงการฝึกอบรมเพื่อเสริมสร้างเครือข่าย และจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประจำปีงบประมาณ 2566 ณ ภูขวัญเมืองรีสอร์ท ต.พะโต๊ะ อ.พะโต๊ะ โดยมี พ.อ.พสิษฐ์ ชาญเลขา รอง ผบ.มทบ.44/รอง ผอ.รมน.จังหวัด ช.พ.(ท.) เป็นประธานการอบรม ปลัดอำเภอพะโต๊ะ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลพะโต๊ะ ข้าราชการส่วนท้องถิ่น ต.ปังหวาน, ต.พระรักษ์, ต.พะโต๊ะ, ต.ปากทรง อ.พะโต๊ะ, หัวหน้าไทยอาสาป้องกันชาติจังหวัด, อำเภอพะโต๊ะ, วิทยากรจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชุมพร, กำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมในพิธีดังกล่าว

โดยกลุ่มเป้าหมายที่เข้ารับการอบรม เป็นข้าราชการส่วนท้องถิ่น, ทสปช. ทั้ง 4 ตำบล ของ อ.พะโต๊ะ จำนวน 52 คน กำหนดวัตถุประสงค์เพื่อจัดตั้งเครือข่ายผู้นำจิตอาสา ขั้นต้นตามกรอบแนวทางของทุนปรัชญาเพื่อความมั่นคง ให้เกิดขึ้นในพื้นที่ระดับตำบลอย่างมีพลัง เสริมการปฏิบัติงานตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2564–2570 ยุทธศาสตร์ที่ 1 การมุ่งเน้น การลดความเสี่ยง จากสาธารณภัย และยุทธศาสตร์ที่ 4 การจัดการในภาวะฉุกเฉิน แบบบูรณาการ อันเป็นส่วนหนึ่งของแผนแม่บทภายใต้ ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นด้านความมั่นคง ให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม และมีประสิทธิภาพ โดยแบ่งกิจกรรมการปฏิบัติออกเป็น 2 ห้วง

ซับน้ำตาชาวลุง!! จิตอาสา ‘อู่ชา เขาชัยสน’ เร่งรุดช่วยชาวบ้าน หลังถนนเข้าออกถูกตัดขาดจากภัยน้ำท่วม

(20 ธ.ค.65) จากสถานการณ์ฝนตกหนัก และเกิดน้ำท่วมหลายพื้นที่ของจังหวัดพัทลุงนั้น ล่าสุดจังหวัดพัทลุง โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัดพัทลุง ประกาศพื้นที่เขตภัยพิบัติอุทกภัยแล้ว 9 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอป่าบอน, อำเภอกงหรา, อำเภอตะโหมด, อำเภอบางแก้ว, อำเภอเขาชัยสน, อำเภอเมือง, อำเภอศรีนครินทร์, อำเภอปากพะยูน และ อำเภอควนขนุน ขณะที่มีผู้เสียชีวิตจำนวน 1 ราย

ซึ่งพื้นที่ที่มีน้ำท่วมหนักเป็นพื้นที่ริมทะเลสาบใน อ.เขาชัยสน, อ.บางแก้ว และ อ.ปากพะยูน โดยเฉพาะบ้านโคกขาม อ.ขาชัยสน ปีนี้ถือว่าวิกฤตน้ำท่วมหนัก ทำให้เส้นทางเข้าออกถูกตัดขาด ชาวบ้านไม่สามารถออกไปซื้อหาอาหารได้ ทางกลุ่มจิตอาสา นำโดย 'อู่ชา เขาชัยสน' พร้อมทีมงานได้ทำข้าวกล่อง ลุยน้ำกลางดึกส่งให้ทุกครัวเรือน

(ชุมพร) เร่งช่วยเหลือลูกเรืออนุภูมิ หลังเกิดเหตุเรืออับปาง จากคลื่นลมแรงในทะเลอ่าวไทย

เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2565 เวลา 11.00 น. นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือลูกเรือ ANUPHUM (เรืออนุภูมิ) ซึ่งได้เกิดเหตุเรืออับปาง บริเวณเกาะล้านเป็ดล้านไก่ จากเหตุคลื่นลมแรงในทะเลอ่าวไทย เป็นผลทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 9 ราย

โดยศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดชุมพร (ศรชล.จว.ชพ.) ได้จัดเรือพาหนะ เพื่อลำเลียงศพและผู้ประสบภัยเข้าฝั่ง ที่ท่าเรือศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลชุมพร ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร พร้อมให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้น ผู้รอดชีวิต ทั้ง 9 รายปลอดภัย

(ยะลา-เบตง) ตชด. 445 เร่งสำรวจดินสไลด์ ถนนพัง เช็คระดับน้ำในคลอง

เจ้าหน้าที่ ตชด. 445 จัดชุดอออกสำรวจเส้นทางดินสไลด์ ถนนทรุดพัง ตรวจสอบระดับน้ำในคลอง เตรียมความพร้อมตลอด 24 ชม แม้ฝนในพื้นที่จะหยุดตกแล้ว

เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.65 พ.ต.ท.อรรถพล จินตาคม ผบ.ร้อย ตชด. 445 ได้สั่งการให้ ร.ต.ท.วิเชียร พรมแก้ว หัวหน้างานกิจการพลเรือน นำกำลังพลเจ้าหน้าที่ ตชด. 445 ออกสำรวจเส้นทางในพื้นที่ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา หลังจากที่ฝนตกข้ามวันข้ามคืน ติดต่อกันนานหลายวัน ส่งผลให้เกิดดินสไลด์ ถนนทรุดพัง ที่บริเวณบ้านสวนใหม่ หมู่ 3 ตำบลยะรม และถนนสายราโมง-ธารน้ำใส หมู่ 5 ตำบลยะรม อำเภอเบตง จังหวัดยะลา พร้อมทั้งตรวจสอบระดับน้ำในลำคลอง ถึงแม้วันนี้ในพื้นที่ฝนจะหยุดตกแล้ว แต่ท้องฟ้ายังมืดคครึ้มตลอดทั้งวัน มีโอกาสที่ฝนจะตกลงมาอีก ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องเตรียมความพร้อมไว้ตลอด 24 ชั่วโมง หากเกิดเหตุจะได้ช่วยเหลือชาวบ้านได้ตลอดเวลา

จุดแรกที่เกิดดินสไลด์ถนนพังเสียหายบริเวณถนนสวนใหม่ ซึ่งเป็นถนนของทางหลวงชนบท ได้เกิดดินสไลด์ ทำให้ถนนทรุดพังเป็นระยะทางประมาณ 10 เมตร ลักษณะเป็นเหวลึกลงไปกว่า 30 เมตร ถนนหายไป 1 ช่องการจราจร ทางเจ้าหน้าที่ อบต.ยะรม ได้นำแผงกั้นจราจรพลาสติก และเทปกั้นเขตตลอดแนวที่ไหล่ทางชำรุด ทำสัญลักษณ์ให้ผู้ที่ใช้ถนนทราบ เพิ่มความระมัดระวัง เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตราย

'พุทธิพงษ์-นุสบา' ร่วมลงนามถวายพระพร 'เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ' ทรงหายจากพระอาการประชวร

(19 ธ.ค.65) นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมด้วยนางนุสบา ปุณณกันต์ ภริยา ร่วมลงนามถวายพระพร สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ขอให้ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ววัน ณ ชั้น 1 อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ถนนพระรามที่ 4 เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้เชิญพระราชกระแส ซาบซึ้งพระราชหฤทัยและทรงขอบใจ ทีมแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ ถวายการรักษา ‘เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ’

(19 ธ.ค.65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โพสต์รูปภาพหนังสือจากหน่วยราชการในพระองค์ 904 และข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยมีเนื้อหาดังนี้

"พิธีเข้ารับพระราชทานของที่ระลึกที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานแก่บุคลากรในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขที่ได้ถวายการรักษา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ ในช่วงที่ประทับที่โรงพยาบาลปากช่องนานา นับเป็นสิริมงคลและเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ข้าราชการกระทรวงสาธารณสุขทุกคนขอน้อมตั้งจิตอธิษฐานให้พระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ ทรงหายจากพระอาการประชวร และกลับมามีพระพลานามัยแข็งแรงโดยเร็วที่สุด"

รัฐบาล ย้ำเตือน ปชช. ยังควรสวมหน้ากากอนามัย ป้องกันฝุ่น PM 2.5 แม้อากาศอยู่ในเกณฑ์ดี

วันที่ 19 ธ.ค.น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรมควบคุมมลพิษ รายงานถึงสถานการณ์คุณภาพอากาศในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ในระยะนี้อยู่ในเกณฑ์ดีถึงดีมาก ซึ่งรวมถึงกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่ปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 ได้ลดลงไม่เกินค่ามาตรฐาน เนื่องด้วยอัตราการระบายอากาศที่ดี ประกอบกับมีลมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงเข้าช่วย

โดยเตือนให้ประชาชนในกรุงเทพฯ และปริมณฑลเฝ้าระวังสถานการณ์ PM 2.5 เนื่องจากขณะนี้กรมอุตุนิยมวิทยา ยังคงพยากรณ์สภาพอากาศที่ความกดอากาศสูงจากประเทศจีนยังคงปกคลุมประเทศไทย บางช่วงเวลาที่อากาศนิ่งไม่มีลมจะทำให้ปริมาณฝุ่นละอองสูงขึ้น โดยต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ฝุ่นละอองที่จะกลับมาเพิ่มอีกครั้งตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 23 ธ.ค. 65 เป็นต้นไป

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ในช่วงสภาพอากาศยังคงเปลี่ยนแปลงนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้เตือนประชาชนให้ดูแลแลสุขภาพจากทั้งสภาพอากาศหนาวและภาวะฝุ่น PM 2.5 โดยมีกลุ่มเสี่ยงที่ต้องดูแลเป็นพิเศษคือ เด็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคระบบทางเดินหายใจ หอบหืด เป็นต้น

ทบ.ระดมกำลังพล-ยุทโธปกรณ์ ช่วยน้ำท่วมภาคใต้ ลดความเสียหายของทรัพย์สิน

เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.2565 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ต.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากสภาพอากาศในปลายเดือนธันวาคมนี้ ปรากฏมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน มีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยและห่างฝั่งบริเวณทะเลอันดามันคลื่นสูง 2-4 เมตร ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำหลากในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง

กองทัพบกโดยกองทัพภาคที่ 4 ได้ส่งกำลังพลและยุทโธปกรณ์ เข้าช่วยเหลือประชาชนทันที ด้วยการเร่งขนย้ายสิ่งของ บรรจุกระสอบทรายทำแนวป้องกันน้ำท่วม เปิดเส้นทางจราจร ช่วยเหลือผู้ประสบเหตุจากกระแสน้ำพัด เคลื่อนย้ายประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัย รวมถึงร่วมกับส่วนราชการในจังหวัดประเมินสถานการณ์ระดับน้ำอย่างต่อเนื่อง มุ่งดูแลเรื่องความปลอดภัยและการรักษาทรัพย์สินให้ได้รับความเสียหายน้อยที่สุด ในหลายพื้นที่การอพยพประชาชนเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากระดับน้ำสูงและความแรงของกระแสน้ำ และมีภาวะฝนตกต่อเนื่อง

ทั้งนี้ผู้บัญชาการทหารบก มอบให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก เตรียมเครื่องมือและอุปกรณ์พิเศษในการบรรเทาสาธารณภัย พร้อมส่งไปสนับสนุนการปฏิบัติของกองทัพภาคที่ 4 โดยทันที สำหรับในปัจจุบันการช่วยเหลือประชาชนยังคงดำรงอยู่ใน 7 จังหวัด ได้แก่ อ.ทุ่งสง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช, อ.เมือง จ.พัทลุง, อ.ปะเหลียน จ.ตรัง, อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา, จ.ปัตตานี, จ.ยะลา และ จ.นราธิวาส

พิษมรสุมใต้! เกษตรกรเกาะยอเฝ้าระวังน้ำแปลง ปลากะพงขาวเสี่ยงตายยกกระชัง

เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากะพงขาวในกระชัง เฝ้าระวังปลากะพงขาวในกระชังอย่างใกล้ชิด หลังจังหวัดสงขลาอยู่ในช่วงฤดูมรสุมลมตะวันออกเฉียงเหนือของภาคใต้ สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงมีฝนตกทุกวัน จะต้องเฝ้าระวังและดูแลปลาที่เลี้ยงให้ระวังเรื่องอาหารและโรค รวมทั้งระดับน้ำที่สูงขึ้นด้วย

วันนี้ (16 ธ.ค.) นายจารึก กาลานุสนธ์ เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากะพงขาวในกระชัง หมู่ที่ 1 ต.เกาะยอ อ.เมือง จ.สงขลา ซึ่งเลี้ยงปลากะพงขาวมาเป็นเวลานานกว่า 15 ปี มีความชำนาญและมีประสบการณ์ในการเลี้ยงปลาในช่วงหน้าฝนที่ต้องเจอทุกปีในช่วงนี้ เลี้ยงปลาทั้งหมดกว่า 10 กระชัง ทั้งปลาขนาดเล็กและปลาขนาดใหญ่ ได้เฝ้าระวังและดูแลปลากะพงขาวที่เลี้ยงในกระชังอย่างใกล้ชิด หลังจากมีการแจ้งเตือนจากกรมประมง ในฤดูมรสุม สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงมีฝนตกทุกวันจะต้องเฝ้าระวังและดูแลปลาที่เลี้ยง ให้ระวังเรื่องอาหารและโรค รวมทั้งระดับน้ำที่สูงขึ้น

เนื่องจากในช่วงนี้เป็นช่วงฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือของภาคใต้ มีฝนตกชุก ความเค็มของน้ำเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากะพงขาวในกระชังต้องระวัง เนื่องจากความต้านทานเชื้อของปลาจะลดน้อยลงในช่วงนี้ การให้อาหารปลาจะต้องลดลง

ลมหนาวมาแล้วนะ! นายกฯ ห่วง ปชช. แนะดูแลสุขภาพ เตรียมรับมืออากาศหนาว 17-20 ธ.ค.

เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ห่วงใยพี่น้องประชาชนในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง ซึ่งหลายพื้นที่มีอากาศหนาวเย็นอุณหภูมิลดลง หลังกรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศ ระบุว่า ในช่วงวันที่ 17-20 ธ.ค.นี้ บริเวณความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงอีกระลอกจากประเทศจีน จะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาว และอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 6-8 องศาเซลเซียส บริเวณพื้นราบอุณหภูมิต่ำสุด 10-18 องศาเซลเซียส

ส่วนบริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 2-10 องศาเซลเซียส สำหรับภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 15-21 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย

เคาะขึ้นค่าไฟภาคเอกชน ส่วนครัวเรือนยังตรึงไว้ 4.72 บาทต่อหน่วย

นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า ที่ประชุม กกพ. เห็นชอบการคำนวณค่า Ft ประจำเดือนมกราคม – เมษายน 2566 โดยคิดค่าไฟฟ้าสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่อัตรา 93.43 สตางค์ต่อหน่วย ทำให้เมื่อรวมค่าไฟฟ้าฐาน ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยอยู่ในระดับเท่าเดิมที่อัตรา 4.72 บาทต่อหน่วย

ส่วนผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทอื่น คิดที่อัตรา 190.44 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งจะมีค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่อัตรา 5.69 บาทต่อหน่วย หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 21%

เด็กชาวเลปาดน้ำตาต่อหน้า เลขาฯ ธัชชญาณ์ณัช ติดตามกรณีชุมชนชาวเลหลีเป๊ะ ได้รับความเดือดร้อนจากการปิดกั้นทางสัญจรบนเกาะโดยด่วน

วันนี้ 15 ธันวาคม 2565 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับทราบและมีความกังวลถึงความเดือดร้อนข้อพิพาทกรณีที่ดินบนเกาะหลีเป๊ะตามที่เป็นข่าว จึงมีบัญชาผ่านพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่เพื่อติดตาม การแก้ปัญหาปิดกั้นทางสัญจรสาธารณประโยชน์ชุมชนชาวหลีเป๊ะ จ.สตูลอย่างเร่งด่วน ซึ่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและคณะ ได้มีกำหนดลงพื้นที่ในระหว่างวันที่ 14-15 ธันวาคม 2565

โดยเมื่อวานนี้วันนี้ 14 ธันวาคม 2565 รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐ ได้มอบหมายให้ นายธัชชญาณ์ณัช เจียรนัทกานนท์ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายอนุชา นาคาศัย) พร้อมด้วย นายอิทธิพล ช่างกลึงดี ผู้ช่วยปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ชุมชนชาวเลหลีเป๊ะ เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล เพื่อติดตามและรับฟังข้อมูลข้อเท็จจริงจากราษฎรในพื้นที่ และผู้แทนขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม กรณีการปิดกั้นเส้นทางสัญจรสาธารณประโยชน์ชุมชนชาวเลเกาะหลีเป๊ะ

ซึ่งประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากการปิดกั้นทางสัญจรในชุมชน ที่ชาวบ้านใช้สำหรับเดินทางไปโรงเรียน โรงพยาบาล สุสาน รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวสัญจรของนักท่องเที่ยว จากการลงพื้นที่ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้รับทราบถึงปัญหาความเดือดร้อนของกลุ่มชาวเลหลีเป๊ะ และได้เข้าติดตามบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว รวมถึงได้เข้าพบเด็กนักเรียนและผู้ปกครองของโรงเรียนเกาะหลีเป๊ะ

สุดประทับใจ!!! ครอบครัวและญาติผู้ป่วยวิกฤตสมองตาย ยินยอมบริจาคอวัยวะหัวใจ ตับ ไต ดวงตา ให้สภากาชาดไทย ต่อลมหายใจได้อีก 6 ชีวิต

เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. เพจเฟซบุ๊ก โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ เผยแพร่เรื่องราวสุดประทับใจแห่งปี 2565 หนึ่งชีวิตต่อลมหายใจ สร้างกุศลที่ยิ่งใหญ่ มอบอวัยวะให้กับอีก 6 ชีวิต ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น บริจาคอวัยวะประกอบด้วย หัวใจ, ตับ ,ไต 2 ข้าง ตับอ่อน และดวงตา 2 ข้าง เป็นกรณีตัวอย่าง ผู้ป่วยชายอายุ 28 ปี ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ได้รับบาดเจ็บทางสมองอย่างรุนแรง ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์

ทีมศัลยแพทย์ระบบประสาทและสมอง ได้พยายามดูแลผู้ป่วยอย่างเต็มที่ รักษาโดยการผ่าตัดสมอง ดูแลในหอผู้ป่วยวิกฤต แต่ไม่อาจรักษาให้สมองกลับฟื้นคืนมาได้ อยู่ในภาวะสมองตาย แต่สมรรถภาพของหัวใจ และอวัยวะอื่น ๆ ดีมาก ทีมพยาบาลที่ดูแลผู้ป่วยได้ปรึกษาหารือกับบิดา มารดา และญาติผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด ถึงแนวทางการรักษา และโอกาสที่สมองจะกลับฟื้นคืนมามีน้อยมาก จึงได้ขอรับบริจาคอวัยวะให้กับศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยที่รอคอยการปลูกถ่ายอวัยวะ

เมื่อญาติที่อยู่กันอย่างพร้อมเพรียงได้ตัดสินใจบริจาค ทางโรงพยาบาลได้ประสานไปยังสภากาชาดไทย เพื่อเตรียมทีมแพทย์ พยาบาล เครื่องมืออุปกรณ์มาเก็บอวัยวะ รวมถึงการเตรียมผู้ที่รอคอยการปลูกถ่าย โดยเฉพาะหัวใจ ที่ถือเป็นอวัยวะสำคัญ มีเวลาในการขนย้ายเพียง 4 ชั่วโมง การวางแผนในทุกขั้นตอนจึงสำคัญมาก เนื่องจากการเดินทางจากโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ไปยังกรุงเทพมหานคร หากเดินทางโดยรถยนต์ใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมง ถ้าการจราจรติดขัด อาจมากกว่า 5 ชั่วโมง และไม่มีสายการบินพาณิชย์ให้เดินทางได้ มีเพียงสนามบินกองทัพอากาศ กองบิน 5 อ่าวมะนาว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีเพียงเครื่องบินเล็กเท่านั้นที่สามารถบินขึ้นลงได้ การขนย้ายหัวใจ จึงต้องเดินทางทางอากาศยาน เท่านั้นถึงจะทันการผ่าตัดปลูกถ่าย


© Copyright 2022, All rights reserved. South Time Thailand
Take Me Top