Wednesday, 24 April 2024
NEWS

กรม ทช. ลงพื้นที่ติดตาม-ตรวจสอบชุมชนหน้าองค์การสะพานปลา (เกาะสิเหร่) ตำบลรัษฎา จังหวัดภูเก็ต

วันที่ 9 ธันวาคม​ 2565 เวลา 08.30 น. นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (อทช.) ได้มอบหมายให้กองป้องกันและปราบปราม ชุดปฏิบัติการพิเศษที่ 10 สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 10 ร่วมกับศูนย์​อำนวยการรักษาผลประโยชน์​ของชาติทางทะเล​จังหวัด​ภูเก็ต​ (ศรชล.จังหวัด​ภูเก็ต)​ เจ้าหน้าที่​จากเทศบาลตำบลรัษฎา​ ผู้ใหญ่​บ้าน​ และผู้นำชุมชน​ ลงพื้นที่​ชุมชน​หน้าองค์การ​สะพาน​ปลา (เกาะสิเหร่)​ ตำบลรัษฎา​ อำเภอเมือง​ จังหวัดภูเก็ต​ เพื่อตรวจ​สอบการบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนบริเวณโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน​ คทช.ชุมชน​หน้าองค์การ​สะพาน​ปลา (เกาะสิเหร่)​

จากการลงพื้นที่ตรวจสอบในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ศูนย์บริหารจัดการทรัพยากรป่าชายเลน จังหวัด​ภูเก็ต​ ได้ดำเนินการปักหลักเขตชั่วคราว และแสดงแนวเขตพื้นที่เป้าหมาย​โครงการ​ คทช​. ของชุมชน​หน้าองค์การ​สะพาน​ปลา (เกาะสิเหร่) ​แล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้มีการบุก​รุกเพิ่มเติม​ จากการตรวจสอบพบมีสิ่งปลูกสร้าง​ มีลักษณะ​เป็นบ้านพักอาศัยจำนวน​ 1 หลัง​ ที่อยู่​นอกขอบเขตพื้นที่ กำหนดเป็นเป้าหมาย​โครงการ​ คทช.​​ แต่อยู่​ในหลักเกณฑ์​ที่จะนำมาดำเนินโครงการ​ คทช.ได้​

สตูล ร่วมบูรณาการกว่า 20 หน่วยงาน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมหาแนวทางแก้ไขปัญหากรณีพิพาท เรื่องการปิดกั้นเส้นทางบนพื้นที่เกาะหลีเป๊ะ

ที่ห้องประชุม ที่ทำการอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล มอบหมายให้ นายชาตรี ณ ถลาง ปลัดจังหวัดสตูล พร้อมด้วย นายธนพัฒน์ เด่นบูรณะ ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสตูล หัวหน้าส่วนราชการฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมบูรณาการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและหาแนวทางในการแก้ไขปัญหา กรณี ข้อพิพาทระหว่างเอกชนกับชาวเล บนพื้นที่เกาะหลีเป๊ะ อำเภอเมือง จังหวัดสตูล โดยมีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติตะรุเตา ร่วมให้ข้อมูลก่อนเดินลงพื้นที่

จากนั้น คณะได้ลงพื้นที่ไปยังชุมชนของชาวเลอูรักลาโว้ย และบริเวณพื้นที่ใกล้โรงเรียนบ้านเกาะหลีเป๊ะ อำเภอเมือง จังหวัดสตูล ที่ได้มีการร้องเรียนว่ามีการทำรั้วเหล็กปิดถนน บนเส้นทางที่ชาวบ้านบนเกาะใช้สัญจรไปมาอยู่เป็นประจำ ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก โดยชาวบ้านได้มีการตั้งเต็นท์ และแสดงข้อความคัดค้านเชิงสัญลักษณ์บนนถนนในชุมชน

กิจกรรมสร้างสรรค์! ทรภ.1 จับมือ ศรชล.และ ศคท.จว.ตราด จัดกิจรรมอบรมช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล สร้างความรู้ความเข้าใจให้พี่น้องประชาชน

ทรภ.1 ร่วมกับ ศรชล.และ ศคท.จว.ตราด อบรมช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล มอบความรู้ เพื่อช่วยชีวิต หนึ่งในกิจกรรมสร้างการรับรู้ผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยและความปลอดภัยทางทะเล โดยทัพเรือภาคที่ 1 (ทรภ.1) บูรณาการร่วมกับศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดตราด (ศรชล.จว.ตราด) และศูนย์ควบคุมท่าเรือจังหวัดตราด (ศคท.จว.ตราด)

โดยกิจกรรมดังกล่าว จัด ขึ้น ณ อาคารอเนกประสงค์ องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะหมาก ท่าเรืออ่าวนิด ตำบลเกาะหมาก อำเภอเกาะกูด จังหวัดตราด โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจาก องค์การบริหารส่วนจังหวัดตราด องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะหมาก ตำรวจท่องเที่ยว โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเกาะหมาก ชมรมกู้ภัยเกาะหมาก ผู้ประกอบการที่พักและร้านอาหาร ประชาชน นักท่องเที่ยวทั้งไทยและชาวต่างชาติ คณะครูและนักเรียน โรงเรียนเกาะหมาก รวม 100 คน

ปลุกพลังคนรุ่นใหม่ สร้างสรรค์โลกดิจิทัล ไปกับกิจกรรม DIGITAL YOUTH NETWORK THAILAND เยาวชนอาสาดิจิทัล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในโครงการ HACKaTHAILAND 2023 : DIGITAL INFINITY

กิจกรรมที่จะช่วยส่งต่อแนวคิด Digital Literacy เสริมสร้างเกราะป้องกันให้กับเยาวชน นักเรียน นักศึกษา พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้นำเยาวชนในโลกดิจิทัล ในหลักสูตร DIGITAL YOUTH NETWORK THAILAND เยาวชนอาสาดิจิทัล

โดยหลักสูตรในรอบ DIGITAL TRAINER มีวิทยากรที่มาร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้ แชร์ประสบการณ์ พร้อมเสริมสร้างทักษะในการปรับตัวบนโลกดิจิทัล อาทิ Introduction to Digital Youth Network, Digital Skill and Knowledge, 21st-Century Opportunity, Youth Leader New Gen และอื่น ๆ อีกมายมาย

✏️เปิดรับสมัคร วันนี้ – 10 ธันวาคม 2565
คลิกไปที่ https://forms.gle/g555mMnpTtRYXiic8
?ประกาศผลวันที่ 12 ธันวาคม 2565 (เพียง 50 คน เท่านั้น!)

โดยผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะต้องเข้ารับการอบรมเป็นเวลา 3 วัน 2 คืน ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 22-24 ธันวาคม 2565

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมทีมงาน SEED Thailand 0958158305

คนพิการเตรียมเฮ!! จุรินทร์ เคาะแก้ระเบียบบอร์ด “อำนวยความสะดวก-เข้าถึงสิทธิ เพิ่มจำนวนผู้ดูแล”

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชิวิตคนพิการแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.65 ซึ่งมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้มีการพิจารณาแก้ไขระเบียบ กพช. เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนพิการ และเพิ่มการคุ้มครองสิทธิคนพิการที่ไม่มีผู้ดูแลและสิทธิของผู้ดูแลคนพิการ โดยที่ผ่านมา นายจุรินทร์ ได้สั่งการให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พิจารณาการลดขั้นตอนในการเข้าถึงสิทธิการขอความช่วยเหลือจากภาครัฐ และการสนับสนุนการทำงานของผู้ดูแลคนพิการ

ทั้งนี้ กพช.ได้เห็นชอบให้มีการแก้ไขระเบียบ โดยมีสาระสำคัญ อาทิ
1. เพิ่มช่องทางการยื่นคำขอการปรับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย การขอคุ้มครองสิทธิ โดยสามารถแจ้งต่ออาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ประธานชุมชนองค์กรเอกชน หรือหน่วยบริการในพื้นที่ และสามารถยื่นคำขอหรือทำการแจ้งผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ ทำให้คนพิการสามารถเข้าถึงสิทธิได้มากขึ้นและสะดวกกว่าเดิมอย่างมาก
2. เพิ่มหน่วยงานในการฝึกอบรมผู้ช่วยคนพิการ โดยได้รับอุดหนุนงบประมาณจากกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ หรือกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ซึ่งจะทำให้มีจำนวนผู้ช่วยคนพิการมากขึ้น สอดรับความต้องการที่จำเป็นของคนพิการ
3. ผู้ช่วยคนพิการสามารถปฏิบัติงานเป็นรายชั่วโมงหรือรายวันตามความต้องการของคนพิการ เพื่อให้ผู้ช่วยคนพิการสามารถดูแลคนพิการตามความต้องการของคนพิการอย่างถูกต้อง

กอนช.พร้อมรับมือฝนภาคใต้ตอนล่าง ปรับลดการระบายน้ำเขื่อนบางลาง ป้องกันผลกระทบพื้นที่ท้ายน้ำ

กอนช.พร้อมรับมือฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ตอนล่าง ระดมกำลังเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก พร้อมคุมเข้มแผนบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำทุกขนาด ให้สอดคล้องสถานการณ์ ประเดิมปรับลดการระบายน้ำเขื่อนบางลาง หวั่นผลกระทบพื้นที่ท้ายน้ำ

ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เปิดเผยว่า ตามที่ กอนช. ได้ติดตามสถานการณ์และประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำด้วยฝนคาดการณ์ (ONE MAP) จากกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) พบว่า ช่วงวันที่ 8-11 ธ.ค.65 มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนล่าง และหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณเกาะบอร์เนียวจะเคลื่อนผ่านประเทศมาเลเซีย ทำให้บริเวณภาคใต้ตอนล่างจะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ตามประกาศ กอนช.ฉบับที่ 56/2565 โดยพบพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ ได้แก่ จ.นราธิวาส ยะลา ปัตตานี สตูล ตรัง สงขลา พัทลุง นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต และชุมพร รวมทั้งยังต้องติดตามเฝ้าระวังระดับน้ำแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขา ที่จะเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน ที่จะส่งผลให้เกิดน้ำล้นตลิ่ง ปัจจุบันพบสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งบริเวณ อ.เมือง จ.ชุมพร

ประกันสังคม เปิดโอกาสให้ผู้ประกันตนมาตรา 33 มาตรา 39 ที่ประสงค์เปลี่ยน รพ.ในปี 66 เตรียมยื่นเรื่องผ่าน 4 ช่องทาง เริ่มตั้งแต่ 16 ธ.ค.นี้

นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน แจ้งว่า สำนักงานประกันสังคมได้เปิดให้ผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 สามารถแจ้งขอเปลี่ยนสถานพยาบาล ประจำปี ด้วยเหตุจำเป็นไม่ได้รับความสะดวกในการไปรับบริการทางการแพทย์ ณ สถานพยาบาลที่เลือกไว้ ก่อนหน้านี้ เช่น ย้ายที่พักอาศัย ย้ายสถานที่ประจำทำงาน สามารถเริ่มเปลี่ยนสถานพยาบาลได้ ในวันที่ 16 ธันวาคม 2565 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2566

โดยสามารถเลือกเปลี่ยนสถานพยาบาลได้ใน 4 ช่องทางคือ ยื่นแบบการเลือกสถานพยาบาลในการรับบริการทางการแพทย์ สปส. 9-02 ได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา ทุกแห่งทั่วประเทศ หรือทำรายการผ่านเว็บไซด์ www.sso.go.th หรือทำรายการผ่าน Application SSO Connect และทำรายการผ่าน Line official sso โดยเพิ่มเพื่อน @ssothai (กรณีการเปลี่ยนสถานพยาบาลผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่นแล้ว ไม่จำเป็นต้องยื่นเอกสารที่สำนักงานประกันสังคมอีก)

ทบ.เชิญร่วมงาน “Amazing Muaythai Festival 2023” ณ อุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมไหว้ครูมวยไทย 5,000 คน (Guinness World Records)

(ผบ.ทบ.) พร้อม นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย, นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และผู้แทนกระทรวงวัฒนธรรม ในการแถลงข่าวการจัดงาน “Amazing Muaythai Festival 2023” โดยในงานมีการแสดงการไหว้ครูมวยไทย และแม่ไม้มวยไทย ด้วยจำนวนคนที่มากที่สุดในโลก เพื่อบันทึกสถิติโลก (Guinness World Records) ในช่วงค่าของวันที่ 6 ก.พ.2566 ณ อุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

นอกจากนี้ยังได้กล่าวถึงความร่วมมือของภาครัฐ และภาคเอกชนในทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ที่จะนำกิจกรรมต่าง ๆ มาร่วมร้อยเรียงเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อให้เกิดความยิ่งใหญ่ ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ กำหนดการจัดงานในห้วงวันที่ 4-6 ก.พ.2566 โดยในแต่ละพื้นที่จะมีกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย อาทิเช่น พื้นที่อุทยานราชภักดิ์ ประกอบด้วย กิจกรรมไหว้ครูมวยไทย 5,000 คน (Guinness World Records) พิธีบวงสรวงพระเจ้าเสือ และบูรพมหากษัตริย์ 7 พระองค์
และบูธประวัติศาสตร์มวยไทย

กระทรวงศึกษาฯ ประกาศนโยบายการเรียนประวัติศาสตร์แนวใหม่ เน้นทันสมัย-น่าสนใจ

วันที่ 6 ธ.ค. 65 ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้จัดนิทรรศการ 'การจัดการเรียนการสอนประวัติศาสตร์' โดยมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ คณะรัฐมนตรี ร่วมชมนิทรรศการ ซึ่งนางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ประกาศนโยบายและจุดเน้นเรื่องการจัดการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ ประจำปีงบประมาณ 2566 โดยการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ หน้าที่พลเมือง และศีลธรรม ให้มีความทันสมัย น่าสนใจ เหมาะสมกับวัยของผู้เรียน ควบคู่ไปกับการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของท้องถิ่น และการเสริมสร้างวิถีชีวิตของความเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง ซึ่งจัดนิทรรศการในวันนี้ ศธ.ต้องการสะท้อนให้เห็นถึงการส่งเสริมการจัดการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ ใน 4 ส่วน ดังนี้

ส่วนแรก วิชาประวัติศาสตร์ประกาศความเป็นไทย ปรับโครงสร้างเวลาเรียนรายวิชาพื้นฐาน ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 โดยได้จัดทำร่างประกาศ ศธ.เรื่อง การบริหารจัดการโครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษา 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ และ 1 รายวิชาพื้นฐานประวัติศาสตร์ ของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ โครงสร้าง 8+1 เพื่อให้สถานศึกษานำไปใช้ในการส่งเสริมการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ด้วยวิธีการที่หลากหลาย ทั้งในมิติของการจัดการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล และการใช้สื่อและแหล่งเรียนรู้

6 ธันวาคม ‘วันริบบิ้นขาว’ สัญลักษณ์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก และสตรี รำลึกถึงเหตุฆาตกรรมหญิง 14 ราย ที่แคนาดา

ทุกวันที่ 6 ธันวาคมของทุกปีเป็นวันริบบิ้นขาว (White Ribbon Day) หรือที่รู้จักกันในชื่อ วันชาติแห่งการรำลึกและยุติความรุนแรงต่อสตรี (National Day of Remembrance and Action on Violence against Women) ของแคนาดา

ทุกวันที่ 6 ธันวาคมของทุกปีเป็นวันริบบิ้นขาว (White Ribbon Day) หรือที่รู้จักกันในชื่อ วันชาติแห่งการรำลึกและยุติความรุนแรงต่อสตรี (National Day of Remembrance and Action on Violence against Women) ซึ่งเป็นวันสำคัญของประเทศแคนาดา โดยเริ่มต้นขึ้นเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2534 เพื่อเป็นการรำลังถึงเหตุฆาตกรรมที่วิทยาลัยสารพัดช่าง ในเมืองมอนทรีออล ประเทศแคนาดา เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2532 ซึ่งในเหตุการณ์ครั้งนี้มีผู้เสียชีวิต 14 รายและเป็นเพศหญิงทั้งหมด ซึ่งหลังจากที่เหตุการณ์ยุติลงคนร้ายได้ออกมาประกาศตัวว่าต่อต้านสิทธิสตรี

ประมวลภาพบรรยายกาศวันพ่อแห่งชาติ ประจำปี 2565

ผวจ.นำทุกภาคส่วนจัดกิจกรรมเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพในหลวงรัชกาลที่ 9 วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2565

วันที่ 5 ธ.ค.65 นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เป็นประธานในพิธีวางพานพุ่มดอกไม้ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2565 โดยมีนายเถลิงศักดิ์ นุชประหาร รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นาวาตรีหญิงโนสมา หลีเส็น นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพังงา ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และประชาชน เข้าร่วมพิธี ณ หอประชุมจำปูน ศูนย์ราชการจังหวัดพังงา

ต่อมานายเถลิงศักดิ์ นุชประหาร รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นำส่วนราชการผู้แทนกระทรวง ถวายบังคม หน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้

ขณะเดียวกันที่บริเวณหน้าสำนักงานเทศบาลเมืองสตูล อำเภอเมือง จังหวัดสตูล นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรแด่พระสงฆ์และสามเณร จำนวน 89 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันเฉลิมพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ ประจำปี 2565 โดย มีข้าราชการระดับสูง หัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และพุทธศาสนิกชน ร่วมในพิธีจำนวนมาก

"จิตอาสาร่วมใจ ทำดีเพื่อพ่อ"

กองร้อย ตชด.425 ร่วมกับศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลนที่ 10 ประชาชนจิตอาสาร่วมปลูกต้นโกงกาง 1,000 ต้นเนื่องในวันพ่อแห่งชาติปี 2565

เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณ ม.1 ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา พ.ต.ต.นิพนธ์ พลอยขาว ผบ.กองร้อย ต.ช.ด.425 พร้อมด้วยนายสุริยะ สอนเสริม ผอ.ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลนที่ 10

กำลังพลข้าราชการตำรวจจิตอาสา ต.ช.ด.425 จำนวน 30 นาย เจ้าหน้าที่ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลนที่ 10 จำนวน 10 นาย ผู้นำหมู่บ้านหมู่ 1 พนักงานโรงแรม OUTRIGGER ประชาชนจิตอาสา จำนวน 34 คน รวมทั้งสิ้น  74 คน

นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา ศอ.บต. รับรางวัลประกาศเกียรติคุณด้านการจัดซื้อจัดจ้าง ระดับดี ในพิธีมอบรางวัลองค์กรที่มีความเป็นเลิศในการบริหารจัดการด้านการเงินการคลัง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564

วันนี้ (1 ธันวาคม 2565) ที่ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลองค์กรที่มีความเป็นเลิศในการบริหารจัดการด้านการเงินการคลัง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ให้แก่หน่วยงานที่ผ่านการประเมินผลการปฏิบัติงานของหน่วยงานตามขั้นตอนการบริหารด้านการเงินการคลัง 5 มิติ ได้แก่ มิติด้านการจัดซื้อจัดจ้าง มิติด้านการเบิกจ่าย มิติด้านการบัญชีภาครัฐ มิติด้านการตรวจสอบภายในภาครัฐและมิติด้านปลอดความรับผิดทางละเมิด จัดโดย กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง เพื่อส่งเสริมการปฏิบัติงานด้านการเงินการคลังในภาพรวมของส่วนราชการให้มีประสิทธิภาพ และมีความโปร่งใส ซึ่งเป็นการส่งเสริมการปฏิบัติงานด้านการเงิน การคลังในภาพรวมของประเทศ ให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ “กำกับดูแลและบริหารการใช้จ่ายเงินของแผ่นดิน ให้เกิดประโยชน์สูงสุด” รวมทั้งเป็นขวัญกำลังใจให้กับหน่วยปฏิบัติงานด้านการเงินการคลังให้เป็นที่ยอมรับและได้รับการยกย่อง ในการนี้ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ นำโดย พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้เข้าร่วมรับรางวัลสำหรับ ส่วนราชการ มหาวิทยาลัย และหน่วยงานอื่นของรัฐ ประเภทรางวัลประกาศเกียรติคุณ ด้านการจัดซื้อจัดจ้าง รางวัลระดับ “ดี” ในครั้งนี้ด้วย

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีมอบรางวัลองค์กรที่มีความเป็นเลิศในการบริหารจัดการด้านการเงินการคลัง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ซึ่งมีหน่วยงานที่ได้รับรางวัล จำนวน 44 หน่วยงาน และ 7 จังหวัด รวมทั้งสิ้น 103 รางวัล ประกอบด้วย 11 ประเภทรางวัล ได้แก่ 1. รางวัลประกาศเกียรติคุณด้านการจัดซื้อจัดจ้าง 2. รางวัลประกาศเกียรติคุณด้านการเบิกจ่าย 3. รางวัลประกาศเกียรติคุณด้านการบัญชีภาครัฐ 4. รางวัลประกาศเกียรติคุณด้านการตรวจสอบภายในภาครัฐ 5. รางวัลประกาศเกียรติคุณด้านปลอดความรับผิดทางละเมิด 6. รางวัลบุคคล/ทีมงานที่มีความเป็นเลิศในการบริหารจัดการด้านการเงินการคลัง 7. รางวัลองค์กรที่มีความเป็นเลิศรายด้าน  8.รางวัลประกาศเกียรติคุณหน่วยงานที่มีการพัฒนาการปฏิบัติงานด้านการเงินการคลัง 9. รางวัลประกาศเกียรติคุณส่งเสริมความเป็นเลิศในการบริหารจัดการด้านการเงินการคลัง 10. รางวัลองค์กรที่มีความเป็นเลิศในด้านบริหารจัดการด้านการเงินการคลัง (ถ้วยรวม) และ11. ใบประกาศการผ่านเกณฑ์การประเมินมาตรฐานรางวัลองค์กรที่มีความเป็นเลิศในการบริหารจัดการด้านการเงินการคลัง

"มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง" ช่วยเหลือผู้พิการด้อยโอกาสในส่วนภูมิภาค จัดทีมลงพื้นที่จังหวัดพัทลุงและจังหวัดเลย มอบรถเข็นวีลแชร์พร้อมค่าพาหนะ รวมมูลค่ากว่า 5 แสนบาท

วันนี้ (วันที่ 1 ธันวาคม 2565) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายนิพนธ์ โชคภิรมย์วงศา กรรมการปฏิคม พร้อมด้วย นายชาญกิจ วิทยาวรากรณ์  กรรมการ นายอรัณย์ โตทวด ผู้จัดการใหญ่ และ นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นำทีมลงพื้นที่จังหวัดเลย มอบรถเข็นวีลแชร์ ในโครงการ “ป่อเต็กตึ๊ง สงเคราะห์สังคม” รวม 79 คัน พร้อมมอบค่าพาหนะแก่ผู้พิการคนละ 500 บาท คิดเป็นมูลค่า 248,850 บาท (สองแสนสี่หมื่นแปดพันแปดร้อยแปดร้อยห้าสิบบาทถ้วน) โดยมี นายณรงค์ จีนอ่ำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย คณะมูลนิธิสว่างคีรีธรรม จังหวัดเลย เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี ณ ที่ทำการมูลนิธิสว่างคีรีธรรม จังหวัดเลย

โดยเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 65 ที่ผ่านมา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ จัดทีมลงพื้นที่จังหวัดพัทลุง  มอบรถเข็นวีลแชร์พร้อมค่าพาหนะแก่ผู้พิการ จำนวน 100 คัน โดยมี นายฉัตรชัย อุสาหะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยคณะพัทลุงการกุศลมูลนิธิ เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี ณ ที่ทำการพัทลุงการกุศลมูลนิธิ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมการขนส่งทางบก ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) แถลงข่าวระบบบันทึกคะแนนความประพฤติในการขับรถ

วันที่ 1 ธันวาคม 2565 เวลา 10.00 น. ณ ห้องศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก นายพงษ์สิทธิ์ ชัยฉัตรพรสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน สายงานกำกับกฎเกณฑ์และกฎหมาย ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และพันเอก สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.วีระ จิรวีระ รอง จตช. และผู้บริหารของทั้ง 4 หน่วยงาน ได้ร่วมกันแถลงข่าวประชาสัมพันธ์ระบบบันทึกคะแนนความประพฤติในการขับรถ หรือระบบตัดแต้ม และความร่วมมือระหว่างหน่วยงานเพื่อสร้างระบบดังกล่าว ให้ดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นมาตรฐานสากล ระบบบันทึกคะแนนความประพฤติ กำหนดไว้ใน “ระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับระบบการบันทึกคะแนนความประพฤติในการขับรถของผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ พ.ศ.2565” ซึ่งออกตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 142/1 โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 9 มกราคม 2566 ซึ่งจะเป็นมาตรการเสริมในการสร้างวินัยการขับขี่เพิ่มเติมจากการออกใบสั่งเพื่อบังคับใช้กฎหมายตามปกติ ภายใต้สโลแกน “มุ่งเน้นการสร้างวินัยการขับขี่ปลอดภัย ให้โอกาสแก้ไขไม่กระทำผิดซ้ำ สร้างความเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมาย และเป็นมาตรฐานสากล”

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์  กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. กล่าวว่า สาระสำคัญของระบบนี้ คือ กำหนดให้ผู้ที่มีใบอนุญาตขับขี่แต่ละราย จะมีคะแนนความประพฤติคนละ 12 คะแนน  (ไม่ว่าผู้นั้นจะได้รับใบอนุญาตขับขี่กี่ชนิดก็ตาม) หากทำผิดตามกฎจราจรในข้อหาที่ระบุไว้ จะถูกตัดคะแนนตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด ดังนี้ 
การตัดคะแนน 
1) กลุ่มความผิดหลักที่เป็นปัจจัยในการเกิดอุบัติเหตุ (20 ฐานความผิด) จะถูกตัดคะแนนเมื่อทำผิดทันที โดยความผิดในกลุ่มนี้แบ่งเป็น 4 ระดับ ได้แก่
 - ตัด 1 คะแนน  เช่น ขับรถเร็วเกินกำหนด ไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่รัดเข็มขัดนิรภัย ไม่หยุดให้คนข้ามทางม้าลาย ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ
 - ตัด 2 คะแนน  เช่น  ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร (ฝ่าไฟแดง)  
 - ตัด 3 คะแนน  เช่น ขับรถชนแล้วหนี 
 - ตัด 4 คะแนน  เช่น เมาแล้วขับ ขับรถในขณะเสพยาเสพติด 
2) กลุ่มความผิดอื่นๆ ตามกฎหมายว่าด้วยจราจรทางบก และกฎหมายที่เกี่ยวกับรถหรือการใช้ทาง จำนวน 42 ฐานความผิด ตามบัญชีท้ายระเบียบ ความผิดกลุ่มนี้จะถูกตัดคะแนนเฉพาะกรณีไม่ชำระค่าปรับตามใบสั่งในเวลาที่กำหนดเท่านั้น เช่น ฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจรในทาง จอดในที่ห้ามจอด ไม่แสดงใบอนุญาตขับขี่ขณะขับรถ เป็นต้น 

วิธีการตัดคะแนนนั้น จะดำเนินการโดยระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยใช้ระบบฐานข้อมูลใบสั่ง PTM ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการบันทึกการทำผิดกฎจราจรและตัดคะแนนในแต่ละครั้ง  

การสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่
- หากผู้ขับขี่ถูกตัดคะแนนจนเหลือ 0 คะแนน  จะถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ หรือห้ามขับรถ (ทุกประเภท) เป็นเวลา 90 วัน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเป็นผู้มีหนังสือแจ้งคำสั่งดังกล่าว และหากฝ่าฝืนไปขับรถในขณะถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 156  
- หากถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่เป็นครั้งที่ 3 ภายใน 3 ปี อาจจะถูกสั่งพักใช้มากกว่า 90 วัน  และหากยังถูก
สั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่อีกเป็นครั้งที่ 4 อาจถูกพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่


© Copyright 2022, All rights reserved. South Time Thailand
Take Me Top