Thursday, 28 March 2024
ECONBIZ

ร้านค้าที่ยะลา คึกคัก เข้าร่วมโครงการพาณิชย์ลดราคาสินค้า ต้อนรับตรุษจีนปีกระต่ายทอง ปี 2566 Lot 23 เริ่มต้นของไหว้ชุดละ 99 บาท

เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2566 บรรยากาศต้อนรับเทศกาลตรุษจีน ปีกระต่ายทอง ปี 2566 ในพื้นที่จังหวัดยะลา ร้านค้าในจังหวัดยะลา คึกคัก จับมือเข้าร่วมโครงการกับกระทรวงพาณิชย์ เปิดจำหน่ายสินค้าจากตลาดเยาวราช มาจำหน่ายที่ยะลา โดยนางผุสสดี จ๋ายเจริญ พาณิชย์จังหวัดยะลา จัดกิจกรรมพาณิชย์ลดราคา ต้อนรับตรุษจีนปีกระต่ายทอง ปี 2566 Lot 23 จับมือร้านเข้าร่วมโครงการ ประกอบด้วย ร้านเฮน เบเกอรี่, ร้านเอกศิลป์และร้านซุนกวงพาณิชย์ ถนน ณ นคร (ตลาดเยาวราชยะลา) อำเภอเมือง จังหวัดยะลา จำหน่ายสินค้าสำหรับไหว้เจ้าราคาประหยัดในช่วงเทศกาลตรุษจีน เช่น ชุดไหว้ตรุษจีน ราคา 99 บาท/ชุด และของไหว้ ราคาไม่เกินชุดละ 95 บาท เพื่อให้พี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน ได้ซื้อของไหว้ราคาประหยัดในช่วงเทศกาลตรุษจีน จัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-20 มกราคม 2566

ซึ่งในครั้งนี้ ทางร้านได้ให้ความร่วมมือและพร้อมใจกันจำหน่ายสินค้า สำหรับไหว้เจ้าในราคาประหยัด และคาดว่าในปีกระต่ายทอง 2023 นี้ พี่ชาวไทยเชื้อสายจีนจะออกมาจับจ่ายซื้อหาของไหว้กันเป็นจำนวนมาก มากกว่าปี 2022 ที่ผ่านมา และคาดว่าในปีนี้ช่วงเทศกาลตรุษจีนจะมียอดเงินสะพัด ในการจับจ่ายซื้อหาสินค้าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท

ชาวประมงกระบี่รับทรัพย์ วางอวนล้อมจับกลางทะเลกระบี่ คืนเดียวได้ปลาหางแข็งเต็มลำเรือ กว่า 14,000 กิโลกรัม ขายได้กว่า 4 แสนบาท

วันนี้ (17 มกราคม 2566) ที่แพปลาท่าเรือน้ำลึก ตำบลไสไทย อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ ลูกเรือประมงอวนล้อมจับ (อวนดำ) ของเรือ ว.โชคกมลทิพย์ ของ นายปภังกร บุญสพ ได้ทยอยนำปลาหางแข็งที่จับได้กลางทะเลกระบี่เมื่อคืนที่ผ่านมา ทยอยนำขึ้นจากเรือขายให้พ่อค้าแม่ค้าที่มารอรับซื้อต่อไปขายตามตลาดสด ราคาขายส่งกิโลกรัมละ 30 บาท คิดเป็นมูลค่ากว่า 400,000 บาท สร้างความดีใจให้แก่เจ้าของเรือและลูกเรือเป็นอย่างมาก ซึ่งถือว่าโชคดีรับปีใหม่

นายเจริญไชย ศรีสุวรรณ์ ประมงจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากสมาคมชาวประมงจังหวัดกระบี่ ว่า มีเรืออวนล้อมจับ หรืออวนดำ ซึ่งเป็นเรือประมงพาณิชย์ของ จ.กระบี่ ได้ออกทำการประมงเมื่อช่วงเย็นของวันที่ผ่านมา บริเวณทะเลอ่าวกระบี่ ได้พบกับฝูงปลาหางแข็ง จำนวนมาก และได้วางอวนล้อมจับได้นับหมื่นกิโลกรัม คิดเป็นมูลค่ากว่า 4 แสนบาท สำหรับปลาที่จับได้มีน้ำหนักแต่ละตัวประมาณครึ่งกิโลกรัม (5 ขีด)

'สมุย เอลเลเฟนท์ คิงดอม' สร้างจุดขาย เดินบนสกายวอล์กชมช้าง รองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มรักช้างและท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์

วันที่ 17 มกราคม 2566 'สมุย เอลเลเฟนท์ คิงดอม' บนเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี สร้างจุดขายใหม่ให้นักท่องเที่ยวเดินบนสกายวอล์กยาวกว่า 400 เมตร ชมความเป็นอยู่ของช้าง ช้างอาบน้ำ และให้อาหารช้าง รองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มชอบธรรมชาติ และท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์

นักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่เดินทางมาท่องเที่ยวเกาะสมุยมากขึ้น หลังเปิดประเทศฟื้นฟูการท่องเที่ยว โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ได้ไปหันไปท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ท่องเที่ยวแบบเรียนรู้และศึกษาธรรมชาติ ทำให้ปางช้างเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยว ที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้ความนิยมเดินทางไปท่องเที่ยว และศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับช้างไทย ที่สมุย เอลเลเฟนท์ คิงดอม หรืออาณาจักรช้าง ซึ่งตั้งอยู่บริเวณน้ำตกหน้าเมือง 2 ที่แต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาทำกิจกรรมอย่างคึกคึก ทั้งดูช้างอาบน้ำ ให้อาหารช้าง เป็นต้น

กลับมาคึกคัก! "ถนนคนเดินเกาะสมุย" นักท่องเที่ยวแห่ชอปปิ้ง เงินสะพัดคืนละ 3-5 ล้าน!

ถนนคนเดินเกาะสมุย บริเวณชุมชนฟิชเชอร์แมน วิลเลจ กลายเป็นแลนด์มาร์กทางการท่องเที่ยวของสมุย เมื่อนักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินิยมออกมาชอปปิ้ง รับประทานอาหาร ทำเงินสะพัดคืนละ 3-5 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 12 ม.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีการเปิดรับนักท่องเที่ยวหลายพื้นที่ในเกาะสมุย ทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยว การจับจ่ายกลับมามีสีสัน ร้านค้าร้านอาหาร บนเกาะสมุยกลับมาเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ไม่ต่างจากถนนคนเดินบนเกาะสมุย ที่ชาวชุมชุนถนนเลียบชายหาดบ่อผุด หรือฟิชเชอร์แมน วิลเลจ ทำให้บรรยากาศสีสันการท่องเที่ยวในชุมชน กลุ่มผู้ประกอบการในชุมชนได้มีการจัดระเบียบ และพัฒนาถนนคนเดิน หรือวอล์กกิ้ง สตรีท จนกลายมาเป็นแลนด์มาร์กการท่องเที่ยวบนเกาะสมุย

โดยถนนคนเดินเส้นนี้มีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ทั้ง 2 ฝั่งถนนจะมีร้านค้า ร้านอาหารเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวกว่า 100 ร้านค้า และถนนเส้นนี้อยู่ใกล้กับทะเล เป็นชุมชนเก่าแก่ ทำให้นักท่องเที่ยวที่มาท่องเที่ยวได้สัมผัสความสวยงามของชายหาด และท้องทะเลที่สวยงามยามค่ำคืน

นอกจากความสวยงานทางธรรมชาติแล้ว ทางผู้ประกอบการยังจัดให้มีการแสดงโชว์ควงกระบองไฟ สร้างสีสันที่ตื่นตาตื่นใจให้นักท่องเที่ยว ซึ่งในแต่ละคืนถนนเส้นนี้จะมีนักท่องเที่ยวมาเดินชอปปิ้ง ใช้บริการตามร้านอาหารและสถานบริการ ทำให้ผู้ประกอบการร้านค้า ร้านอาหาร แผงลอยที่มาออกซุ้มสามารถขายของได้คืนละ 3-5 ล้านบาท ซึ่งทางกลุ่มผู้ประกอบการได้เตรียมความพร้อมไว้รองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน ที่กำลังทยอยเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในเร็ว ๆ นี้

ไม่ง้อรัฐ! เกษตรกรท่าสะบ้า จ.ตรัง รวมกลุ่มทำผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์ม แก้ปัญหาราคาตกต่ำ

วันที่ 12 ม.ค. 66 เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันท่าสะบ้า อำเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง คิดหาวิธีแก้ปัญหาราคาตกต่ำ โดยรวมกลุ่มกันนำผลปาล์มมาสกัดด้วยวิธีธรรมชาติ เพื่อเอาน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์มาทำผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ส่งขายออนไลน์ แถมได้ผลตอบรับดี

ที่ทำการกลุ่มวิสาหกิจแปลงใหญ่ปาล์มน้ำมันท่าสะบ้า หมู่ 3 ต.ท่าสะบ้า อ.วังวิเศษ จ.ตรัง ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการรวมตัวกันของเกษตรกรชาวสวนปาล์มใน ต.ท่าสะบ้า จำนวน 30 คน มีเนื้อที่สวนปาล์มน้ำมันรวมกว่า 500 ไร่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับพัฒนาคุณภาพปาล์มน้ำมันให้ได้มาตรฐาน เพิ่มผลผลิตต่อไร่ต่อปี ลดต้นทุนการผลิต และคิดค้นพัฒนาต่อยอดแปรรูปผลปาล์มน้ำมัน นำมาใช้เป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ

ถือได้ว่า กลุ่มวิสาหกิจแปลงใหญ่ปาล์มน้ำมันท่าสะบ้า ทำได้สำเร็จเป็นแห่งแรกของไทย ที่ทำในรูปแบบกลุ่มวิสาหกิจเกษตรกร โดยเกษตรกรเจ้าของผลผลิต เพื่อดูดซับปริมาณปาล์มน้ำมันที่ออกสู่ตลาด และแก้ปัญหาราคาปาล์มตกต่ำ โดยไม่หวังพึ่งรัฐในการนำผลผลิตไปใช้ภายในประเทศ

ขั้นตอนในการทำผลิตภัณฑ์ ทางกลุ่มได้นำเอาเมล็ดปาล์มน้ำมันสดจากแปลง ของสมาชิกมาล้างทำความสะอาด จากนั้นผ่านเครื่องแยก และเครื่องสกัดอย่างง่ายแบบธรรมชาติ ก่อนนำไปอบด้วยเครื่องอบไมโครเวฟ และเครื่องอบลมร้อน แล้วเอาไปแยกเปลือกกับเมล็ดในปาล์มออกจากกัน ทำให้ได้น้ำมันปาล์มออกมา 2 ชนิด ประกอบด้วย

1.) น้ำมันปาล์ม (Crude Palm Oil) หรือ น้ำมันปาล์มออย หรือน้ำมันปาล์มแดงบริสุทธิ์ ไม่ผ่านกรรมวิธี ซึ่งจะทำให้มีสีแดง และมีไขแดงอยู่ด้านบน เพราะสกัดจากเนื้อปาล์ม หรือเปลือกสดของผลปาล์ม (ลักษณะฝอย ๆ เหมือนหมูหยอง)

2.) น้ำมันเมล็ดในปาล์ม (Crude Palm Kernel Oil) สกัดได้จากเมล็ดในของผลปาล์ม

น้ำมันบริสุทธิ์ที่ได้ทั้ง 2 ชนิด โดยเฉพาะน้ำมันปาล์มแดง สามารถแปรรูปทำเป็นผลิตภัณฑ์ได้หลากหลาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนจำเป็นต้องใช้ ทั้งกิน ทั้งทา ในรูปแบบต่าง ๆ มากมาย

แกร็บภูเก็ต เปิดตัวบริการ “เรียกรถตุ๊กตุ๊กผ่านแอป” ต้อนรับนักท่องเที่ยว ส่งเสริมอาชีพท้องถิ่น

แกร็บเตรียมเปิดตัวบริการ “แกร็บตุ๊กตุ๊ก” (GrabTukTuk) ในภูเก็ต ต้อนรับการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ พร้อมส่งเสริมการสร้างอาชีพให้คนในท้องถิ่น ตั้งเป้ารับสมัครพาร์ตเนอร์คนขับรถตุ๊กตุ๊ก 100 คัน ในช่วงต้นปีนี้

วันที่ 10 มกราคม 2566 นายวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า ตั้งแต่ที่รัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าประเทศ เราได้เห็นสัญญาณบวกการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันประเทศไทยให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วกว่า 10 ล้านคน โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างภูเก็ต

ทั้งนี้ บริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันถือเป็นหนึ่งในทางเลือกของการเดินทางที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ เนื่องจากตอบโจทย์ทั้งในด้านความสะดวกสบายและมีมาตรฐานความปลอดภัย ซึ่งไม่เพียงมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต แต่ยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการสร้างรายได้แก่ประชาชนในท้องถิ่นด้วย

“แม่พิมพ์นราธิวาส” grand opening ผ้าคลุมร่วมสมัย แบรนด์ BAWAL FAOZANA เตรียมส่งตีตลาดประเทศมุสลิม

เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2566 ที่โรงแรมอิมพีเรียล อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส ได้จัดแฟชั่นโชว์ผ้าคลุมเปิดตัวแบรนด์ BAWAL FAOZANA By WAEMASTURA ซึ่งถือเป็นแบรนด์น้องใหม่อีกหนึ่งแบรนด์ ที่กำลังเป็นที่ยอมรับของคนรุ่นใหม่และผู้ที่ต้องการเพิ่มบุคลิกให้มีความมั่นใจ โดดเด่นในทุกสไตล์การแต่งตัวของสาวมุสลิมและสุภาพสตรี

โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น มีกลุ่มลูกค้าเดินทางมาแสดงความยินดี ตลอดจนเพื่อน ๆ ของเจ้าของแบรนด์ที่ร่วมมาชมแฟชั่นโชว์ ของผ้าคลุมหลากหลายสไตล์และสีสันที่งดงาม

โดย นางแวมัสตูรอ นิแว ครู กศ.3 ชำนาญการ เจ้าของแบรนด์ BAWAL FAOZANA ผู้สนใจเสน่ห์ของภาพบาวา เล่าถึงจุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจผ้าคลุมในครั้งนี้ว่า เริ่มจากการที่ตนเองเป็นผู้สวมใส่ผ้าคลุมเป็นระยะเวลายาวนาน อีกทั้งเป็นครู บุคลิกภาพจึงเป็นเรื่องสำคัญ ชุดที่เราใส่ ผ้าที่เราต้องคลุม มีส่วนทำให้เรามีความมั่นใจมากขึ้น การเลือกผ้าบาวา ซึ่งเป็นผ้าที่มีความเบาสบายและสีที่ไม่เข้มจนเกินไป ไม่ฉูดฉาดแต่ก็ยังซ่อนเสน่ห์ของเพชรเม็ดเล็ก ๆ ซึ่งสำหรับผู้หญิง ทำให้ดูมีคุณค่า เพิ่มเสน่ห์ให้กับตัวเองได้มากยิ่งขึ้น

‘อินโนบิก’ ผนึก ‘ฮาตาริ เน็กซ์’ จำหน่ายอุปกรณ์ทางการแพทย์แบบใช้ในบ้าน รองรับเทรนด์ดูแลสุขภาพง่ายๆ ด้วยตนเอง

อินโนบิก ร่วมมือกับ ฮาตาริ เน็กซ์ มุ่งนำร่องพัฒนาและจัดจำหน่าย อุปกรณ์ทางการแพทย์ แบบใช้ภายในบ้าน เพื่อให้บุคคลทั่วไปสามารถดูแลสุขภาพได้ด้วยตนเอง

บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จํากัด และ บริษัท ฮาตาริ เน็กซ์ จํากัด ร่วมเดินหน้าพัฒนาอุปกรณ์ทางการแพทย์แบบใช้ภายในบ้าน (Home-Use Medical Device) สะดวกพกพา ง่ายต่อการใช้งาน ซึ่งจะช่วยให้บุคคลทั่วไปสามารถดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองและคนในครอบครัวได้ดียิ่งขึ้น อาทิ การร่วมกันพัฒนาอุปกรณ์เครื่องตรวจวัดน้ำตาลในเลือดโดยไม่ต้องเจาะเลือด (Non-Invasive Blood Glucose Monitor) ที่เหมาะสมกับคนไทย โดยวางแผนพร้อมจําหน่ายภายในปี 2566 นอกจากนี้ ยังร่วมมือกันในการจัดจําหน่ายอุปกรณ์เครื่องคลื่นไฟฟ้าหัวใจแบบพกพาแบรนด์ CMATE และเครื่องวัดความดันโลหิตแบบพกพา โดย อินโนบิก จะเป็นผู้แทนในการจัดจําหน่ายผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งออนไลน์ ร้านขายยา และโรงพยาบาล

ดร. บุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการ บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด เปิดเผยว่า “อุปกรณ์ทางการแพทย์แบบใช้ภายในบ้านถือเป็นแนวโน้มใหม่ของการป้องกันและตรวจวินิจฉัยสุขภาพเบื้องต้น โดยคาดการณ์ในอีก 5 ปีข้างหน้า ในปี 2571 จะมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 35,000 ล้านเหรียญสหรัฐ จึงทำให้มีการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ออกสู่ตลาดอย่างสม่ำเสมอโดยอาศัยความรู้ทางการแพทย์ควบคู่กับเทคโนโลยีทางวิศวกรรมและการวิเคราะห์ข้อมูล (data analytic) ประกอบกับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และความใส่ใจด้านสุขภาพของไทย ทำให้มีความต้องการอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย สะดวกต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น ด้วยความเชี่ยวชาญและองค์ความรู้ในการพัฒนาเทคโนโลยีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของฮาตาริ ผนวกกับความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรม ความรู้ ประสบการณ์ด้านอุปกรณ์ทางการแพทย์และการดูแลรักษาสุขภาพของ

อินโนบิก จึงเกิดความร่วมมือในการพัฒนาอุปกรณ์ทางการแพทย์ แบบใช้ภายในบ้าน ที่มีระบบวิเคราะห์และประมวลผลที่แม่นยําและเข้าใจง่ายในครั้งนี้ โดยผู้ใช้สามารถตรวจประเมินสุขภาพเบื้องต้นได้ด้วยตนเองและสามารถนําข้อมูลไปปรึกษาแพทย์ได้ ตอกย้ำความมุ่งมั่น ของ อินโนบิก (เอเซีย) ที่ดำเนินธุรกิจวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต (Life Science) ยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย และลดการพึ่งพาการนําเข้า เพื่อสร้างความมั่นคงทางด้านสุขภาพ

ไกด์หนุ่มติดปีกผีเสื้อดำน้ำโชว์นักท่องเที่ยว เผยทะเลตรังสวยไม่แพ้ “อวตาร”

วันนี้ (28 ธันวาคม 2565) นายพงษ์พาณิช รอดเมือง หรือน้องนิวส์ อายุ 22 ปี ไกด์ที่นำนักท่องเที่ยว สัมผัสท้องทะเลตรัง ด้วยการดำน้ำดูปะการังน้ำตื้น เผยทะเลตรังสวยไม่แพ้ภาพยนตร์ อวตาร ด้วยการติดปีกผีเสื้อลงดำน้ำพร้อมกางแขนสองข้างออก ปีกผีเสื้อก็พลิ้วไสว ดังผีเสื้อโบยบิน สร้างความตื่นตาให้กับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

ซึ่งจุดดำน้ำจะเป็นบริเวณหน้าเกาะกระดาน ที่มีน้ำใส ปะการังที่งอกใหม่มากมาย มีปลาเล็กปลาน้อยว่ายมาทักทายกับนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก รวมทั้งปลาการ์ตูน หรือปลานีโม่ สายพันธุ์ลายปล้องหางเหลือง, ส้มขาว, ที่มีจำนวนมากขึ้น หลังปิดการท่องเที่ยวไปนานหลายเดือน ซึ่งพึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยว ท่องเที่ยวทะเลตรังได้เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา

จังหวัดระนองเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวเกาะพยาม ประจำปี 2566

ช่วงค่ำวันที่ 27 ธ.ค.65 ที่บริเวณอ่าวใหญ่ ตำบลเกาะพยาม อำเภอเมือง จังหวัดระนอง นายปิยพงศ์ ชูวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เป็นประธานเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวเกาะพยาม จังหวัดระนอง ประจำปี 2566 ภายใต้ธีม “AMAZING PHAYAM FUN ON THE BEACH” โดย จังหวัดระนองร่วมกับ องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะพยาม และสนง.การท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดระนอง โดยมี รอง ผอ.กอ.รมน.จ.ระนอง, รอง ผอ.ศรชล.จ.ระนอง, ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง, ผู้แทนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดระนอง, รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดระนอง, นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง, หัวหน้าส่วนราชการ, หน่วยงานภาครัฐภาคเอกชน, สื่อมวลชน ประชาชน และนักท่องเที่ยว ได้ร่วมกันเปิดกิจกรรมเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวเกาะพยาม เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศที่ต้องการมาสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติทางทะเล ที่ยังคงมีความสมบูรณ์ วิถีชีวิตชาวเล หรือชาวมอแกน โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก โดยนายประดิษฐ์ โชติช่วง นายก อบต.เกาะพยาม กล่าวต้อนรับ และนางสาวอนุชิดา อ้วนสกุล ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดระนอง กล่าวรายงาน

สำหรับการจัดกิจกรรม เทศกาลเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวเกาะพยาม ประจำปี 2566 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 27-28 ธันวาคม 2565 บริเวณอ่าวใหญ่ เกาะพยาม ภายใต้ธีม “AMAZING PHAYAM FUN ON THE BEACH” มีวัตถุประสงค์เพี่อจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว ประชาสัมพันธ์พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวของเกาะพยาม ช่วง High Season กำหนดเป็นปฏิทินการท่องเที่ยวของจังหวัดระนอง ซึ่งจะก่อเกิดกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับพื้นที่และจังหวัดระนอง

มีการบูรณาการร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะพยาม กิจกรรมหลัก ประกอบด้วย งานดนตรีจากศิลปินในยามค่ำคืน การจุดพลุริมทะเล, การแสดงควงกระบองไฟ, การแสดงเซิร์ฟบอร์ด, การแข่งขันชักกะเย่อ, วอลเลย์บอลชายหาด, การแข่งขันทำอาหาร ซึ่งได้จัดให้มีการมอบรางวัลบนเวที, การจำหน่ายอาหารและสินค้าต่าง ๆ ของเกาะพยาม

ภูเก็ตจัดนัดพบแรงงานย่อย "PHUKET JOB FAIR 2022" แก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานในภาคท่องเที่ยว

เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.65 ที่ลานกิจกรรมพับบลิค เฮ้าส์ (หน้า KFC) ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล ภูเก็ต นายดนัย สุนันทารอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดโครงการนัดพบแรงงาน กิจกรรมนัดพบแรงงานย่อย ประจำปีงบประมาณ 2566 โดยมี นางสาวบุณยวีร์ ไขว้พันธุ์ รองอธิบดีกรมการจัดหางาน, นายพิชิต สิงห์ทองคำ จัดหางานจังหวัดภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงแรงงาน, นายจ้าง, สถานประกอบการ และประชาชนเข้าร่วม

นายพิชิต สิงห์ทองคำ จัดหางานจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สำนักงานจัดหางานจังหวัดภูเก็ตจัดกิจกรรมนัดพบแรงงานย่อย "PHUKET JOB FAIR 2022" โดยได้รับความร่วมมือจากศูนย์การค้า เซ็นทรัลเฟสติวัล ภูเก็ต รวมทั้งนายจ้างสถานประกอบการ ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ทำให้ผู้มาสมัครงานมีโอกาสเลือกตำแหน่งงานที่ตรงกับความรู้ความสามารถ ความถนัดของตนเอง เป็นการอำนวยความสะดวก และประหยัดเวลาที่จะสมัครงาน โดยได้มีการสัมภาษณ์งานกับนายจ้างโดยตรง จำนวน 25 แห่ง

มีตำแหน่งงานว่างในจังหวัดภูเก็ตมากกว่า 1,000 อัตรา และสำนักงานจัดหางานจังหวัดภูเก็ต ได้รับสมัครงานแทนนายจ้าง จำนวน กว่า 120 แห่ง ตำแหน่งงานว่างมากกว่า 2,000 อัตรา ทั้งนี้ ได้เปิดลงทะเบียนให้ผู้ที่มีความต้องการไปทำงานต่างประเทศอีกด้วย สอดรับกับปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่หลายภาคส่วนได้ร่วมกันบูรณาการแก้ไข เพื่อลดปัญหาการขาดแคลนแรงงานในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต

‘ศักดิ์สยาม’ ตั้งเป้า 3 ปี ไทยเป็นฮับในอาเซียน ถ่ายทอดนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง

เมื่อไม่นานมานี้ (15 ธ.ค. 65) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานและสักขีพยานในพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือ ‘ผนึกกำลังพันธมิตรพัฒนาเทคโนโลยีระบบรางของภูมิภาค’ ระหว่างสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์การมหาชน) และกลุ่มธุรกิจระบบรางฝรั่งเศส โดยการสนับสนุนของสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศส ว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือครั้งนี้ ไม่มีกำหนดกรอบระยะเวลา เป็นการต่อยอดความร่วมมือการผนึกกำลังพัฒนาศักยภาพบุคลากร เทคโนโลยี และนวัตกรรม ระหว่างสถาบันวิจัยฯ และกลุ่มอุตสาหกรรมระบบรางจากประเทศฝรั่งเศส 5 บริษัท โดยเป็นบริษัทที่มีความรู้ด้านเทคโนโลยีระบบราง ซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับโลก

นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า ความร่วมมือนี้จะทำให้เกิดการทำงานร่วมกันที่เป็นรูปธรรมเรื่องต่าง ๆ ได้แก่

1.การสร้างสถาบันพัฒนาบุคลากรระบบราง ที่เป็นกลไกการพัฒนาบุคลากรระบบราง ทั้งระดับช่างเทคนิคทักษะสูง และระดับวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ โดยร่วมกับสถาบันและหน่วยงานเครือข่าย เช่น การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนที่เกี่ยวข้อง

2.การสร้างความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนฝรั่งเศส และภาคเอกชนไทย เพื่อสร้างอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนระบบรางภายในประเทศ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย Thai First ของกระทรวงคมนาคม โดยไม่เพียงแค่ผลิตได้ แต่คาดหวังให้เกิดผู้ประกอบการไทยที่มีความเข้มแข็ง สามารถแข่งขันในเวทีโลกได้

และ 3.การวิจัยและพัฒนาร่วมกัน และถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมระบบรางชั้นแนวหน้าระหว่างกลุ่มธุรกิจระบบรางชั้นนำของฝรั่งเศส และเครือข่ายการวิจัยและพัฒนาของประเทศไทย เพื่อส่งเสริม และผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง (ฮับ) การถ่ายทอด และการสร้างเทคโนโลยีและนวัตกรรมของภูมิภาคอาเซียนภายใน 2-3 ปีหลังจากนี้

ท่องเที่ยวคึกคัก!! รมว.สุชาติ สั่งอัพสกิลผู้ว่างงาน 50,000 คน ทำงานบริการท่องเที่ยว

กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ขานรับข้อสั่งการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายสุชาติ ชมกลิ่น ดึงคนว่างงาน นักเรียน นักศึกษาปีสุดท้าย อัพสกิล 50,000 คน พร้อมรื้อแผนฝึกทั่วประเทศรับภาคการท่องเที่ยว

นายประทีป ทรงลำยอง อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดเผยว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายสุชาติ ชมกลิ่น ได้สั่งการและมอบหมายให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เร่งดำเนินการพัฒนาทักษะฝีมือให้แก่แรงงาน เพื่อป้อนภาคท่องเที่ยวที่กำลังฟื้นตัวหลังประสบกับสถานการณ์โควิด-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งรัฐบาลได้ส่งเสริมและสนับสนุนด้านการท่องเที่ยวเพื่อให้เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น

โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว ที่ขณะนี้ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมากขึ้น ทำให้ธุรกิจการท่องเที่ยวขาดแคลนแรงงานเป็นจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องหาแรงงานที่มีทักษะ ความรู้ ความสามารถ เพื่อทำหน้าที่ให้บริการแก่นักท่องเที่ยว อาทิ พนักงานทำความสะอาดและดูแลห้องพัก พนักงานต้อนรับ พนักงานซักรีด ตลอดจนพนักงานประกอบอาหาร

นอกจากนี้ ยังมีผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง เช่น ร้านนวด-สปา ก็มีความต้องการพนักงานด้านนวด เนื่องจากสาขาอาชีพด้านนวด-สปา ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก จึงมีความต้องการแรงงานเหล่านี้สูงมาก โดยเฉพาะจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของประเทศไทย เช่น ภูเก็ต กระบี่ เชียงใหม่ เชียงราย เป็นต้น

คลังเปิดผลลงทะเบียน 'บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ' รอบใหม่

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากการประกาศผล “สถานะการลงทะเบียน” ของโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 เมื่อวันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2565 ซึ่งเป็นข้อมูลของผู้ที่ลงทะเบียนและมีการแก้ไขข้อมูลในระหว่างวันที่ 5 กันยายน – 17 พฤศจิกายน 2565

โดยมีผู้ลงทะเบียนที่มีสถานะแสดงข้อความว่า “กระทรวงการคลังได้รับข้อมูลการลงทะเบียนของท่านครบถ้วนแล้ว” จำนวนทั้งสิ้น 21,016,770 ราย ผู้ลงทะเบียนที่มีสถานะแสดงข้อความว่า “สถานะการลงทะเบียนไม่สมบูรณ์” เนื่องจากข้อมูลของผู้ลงทะเบียนไม่ตรงตามฐานข้อมูลของกรมการปกครอง จำนวนทั้งสิ้น 1,386,423 ราย (คิดเป็นร้อยละ 6.60 ของผู้ลงทะเบียนที่มีข้อมูลครบถ้วนแล้ว)

ทั้งนี้ เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้ลงทะเบียนกลุ่มดังกล่าว ที่มีการยื่นเอกสารครบถ้วนแต่ยังคงมีสถานะการลงทะเบียนไม่สมบูรณ์ รวมถึงเพื่อให้มีการตรวจสอบความถูกต้อง และความเป็นปัจจุบันของข้อมูลให้ได้มากที่สุด คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานราก และสังคมในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบหลักในโครงการฯ

จึงให้มีการตรวจสอบข้อมูลของผู้ลงทะเบียนที่มีสถานะการลงทะเบียนไม่สมบูรณ์อีกครั้งหนึ่ง โดยผู้ลงทะเบียนกลุ่มดังกล่าวสามารถตรวจสอบสถานะการลงทะเบียนได้อีกครั้งในวันอังคารที่ 20 ธันวาคม 2565 ที่หน่วยงานรับลงทะเบียนทั่วประเทศหรือตรวจสอบได้ด้วยตัวเองผ่านเว็บไซต์กระทรวงการคลัง

รัฐบาล อวดภาพรวม นโยบายแก้หนี้ครัวเรือน ยัน เดินหน้าต่อ เพื่อ ศก.ภาพรวม

เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินการ “ปี 2565 ปีแห่งการแก้หนี้” ภายใต้นโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ให้ทุกส่วนราชการ สถาบันการเงินภาครัฐและเอกชน ร่วมแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนให้ได้อย่างจริงจังนั้น ทำให้สถานการณ์หนี้ครัวเรือนไทยปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดพบว่า สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ในไตรมาส 2 ปี 2565 เหลือ 88.2%  ลดลงจากไตรมาส 1 ปี 2565 ที่ 89.1% และไตรมาส 4 ปี 2564 ที่สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP สูงถึง 90% โดยหนี้ครัวเรือน 4 อันดับแรกยังคงเป็น 1.) เงินกู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัย ซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 34.6 ของหนี้ครัวเรือนรวม 2.) เงินกู้เพื่อการบริโภคอุปโภคส่วนบุคคลสัดส่วนร้อยละ 28.0 ของหนี้ครัวเรือนรวม 3.) เงินกู้เพื่อการประกอบธุรกิจ สัดส่วนร้อยละ 18.2 ของหนี้ครัวเรือนรวม และ 4.) เงินกู้เพื่อซื้อหรือเช่าซื้อรถยนต์/ รถจักรยานยนต์ สัดส่วนร้อยละ 12.3 ของหนี้ครัวเรือนรวม

นายธนกร กล่าวว่า รัฐบาลแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนผ่านมาตรการต่าง ๆ ได้แก่

1.) การแก้ปัญหาหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) โดยปฏิรูปรูปแบบการชำระหนี้ อาทิ การปรับปรุงรูปแบบการจ่ายชำระหนี้คืน จากรายปีเป็นรายเดือน ชำระคืนค่างวดแบบเฉลี่ยเท่ากันทุกเดือน ขยายระยะเวลาการผ่อนชำระจาก 15 ปี เป็น 25 ปี  ปรับปรุงลำดับการตัดชำระหนี้ โดยนำไปตัดเงินต้นก่อน แล้วจึงตัดดอกเบี้ย ปรับลดอัตราดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ เหลือร้อยละ 2 ต่อปี เป็นต้น

2.) การแก้ปัญหาหนี้เช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ เช่น การประกาศกรอบอัตราค่าใช้จ่ายในการทวงถามหนี้ ที่ช่วยคุ้มครองลูกหนี้ไม่ให้ถูกเรียกเก็บเงินในการทวงถามหนี้เกินความจำเป็น

3.) การแก้ปัญหาหนี้สินข้าราชการโดยเฉพาะข้าราชการครู ยุบยอดหนี้โดยใช้ทรัพย์สินและรายได้ของครูในอนาคต เพื่อให้ยอดหนี้ลดลงและสามารถชำระคืนได้จากเงินเดือน การปรับดอกเบี้ยเงินกู้ให้ลดลงเหลือไม่เกินร้อยละ 5

4.) หนี้สินข้าราชการตำรวจ การขอความร่วมมือสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจเช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์ ในช่วงสถานการณ์โควิด 19 พักชำระหนี้เงินต้น ปรับลดอัตราการถือหุ้นรายเดือน จัดทำโครงการปล่อยเงินกู้ระยะสั้นดอกเบี้ยต่ำ และการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้

5.) การปรับลดและทบทวนโครงสร้างและเพดานอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม และการออกมาตรการคุ้มครองสิทธิ์ของลูกหนี้ กระทรวงการคลังปรับลดเพดานเงินกู้สินเชื่อ PICO Finance เหลือร้อยละ 33 จากร้อยละ 36 ธปท. สนับสนุนการรีไฟแนนซ์และการรวมหนี้

และ 6.) การปรับปรุงขั้นตอนในกระบวนการยุติธรรม มีการจัดตั้งศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางธุรกิจและการเงิน เน้นไกล่เกลี่ยข้อพิพาทผ่านระบบออนไลน์ โดยประชาชนสามารถยื่นคำร้องด้วยตนเองหรือผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์


© Copyright 2022, All rights reserved. South Time Thailand
Take Me Top