‘ศุภชัย’ มองเกม ‘ก้าวไกล’ ค้านย้าย ‘หมอสภัทร’ เข้าตำรา ‘น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า’ ของคนพวกเดียวกัน

‘ศุภชัย ใจสมุทร’ ตั้งข้อสังเกต ‘ก้าวไกล’ ออกตัวคัดค้าน ย้าย ‘หมอสุภัทร’ เข้าตำรา น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า ชี้ โยกย้ายข้าราชการโดยไม่กลั่นแกล้งถือเป็นเรื่องปกติ

กระทรวงสาธารณสุขได้มีคำสั่งย้ายนายแพทย์สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ จากผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ จังหวัดสงขลา ประธานชมรมแพทย์ชนบทไปเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลสะบ้าย้อย จ.สงขลา ซึ่งไม่ห่างไกลกันมากนัก

ต้องยอมรับความจริงว่า ในช่วงที่นายแพทย์สุภัทร นั่งเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ ได้ปรับปรุงระบบบริการ การบริหารจัดการโรงพยาบาลจะนะไปมากจนเป็นที่พอใจของประชาชน

อีกบริบทหนึ่งของนายแพทย์สุภัทร คือการขับเคลื่อนทางสังคมในฐานะประธานชมรมแพทย์ชนบท และมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการคัดค้านนิคมอุตสาหกรรมก้าวหน้าจะนะ ที่มีเยาวชนกลุ่มรักษ์บ้านเกิดจะนะ เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการคัดค้าน ซึ่งเป็นโครงการภายใต้การผลักดันของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เพื่อให้เกิดเมืองต้นแบบของเหลี่ยมเศรษฐกิจ และนิคมอุตสาหกรรมก้าวหน้าจะนะ เป็นหนึ่งในสี่ของเมืองเหลี่ยมเศรษฐกิจ

ถ้านิคมอุตสาหกรรมก้าวหน้าจะนะเกิดขึ้นจริง จะเกิดการลงทุนหลายแสนล้าน เกิดการจ้างงานหลายหมื่นอัตรา จะเกิดท่าเรือ ภายใต้การลงทุนของภาคเอกชน

แต่เมื่อมีกลุ่มคัดค้าน ทางภาครัฐก็ต้องรับฟังความคิดเห็นที่รอบด้าน ทำให้โครงการนี้ยังชะลออยู่ โดยอยู่ระหว่างการศึกษารายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (SEA) โดยนายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินโครงการจัดทำการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (SEA) สำหรับแผนแม่บทการพัฒนาเชิงพื้นที่ของจังหวัดสงขลาและปัตตานี ว่า เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.2565 สศช.ได้ลงนามสัญญาว่าจ้างมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) ในการจัดทำ SEA แผนแม่บทการพัฒนาเชิงพื้นที่ของจังหวัดสงขลาและปัตตานี วงเงินค่าจ้าง 28.22 ล้านบาท

ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์จะเริ่มต้นศึกษา SEA แผนแม่บทฯดังกล่าว ตั้งแต่เดือน ม.ค.2566 โดยใช้เวลาศึกษานาน 18 เดือน หรือแล้วเสร็จในช่วงกลางปี 2567 ขณะที่การจัดทำ SEA ครั้งนี้ จะมีการจัดเวทีประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนรวม 40 เวที และมีผู้เข้าร่วมฯไม่น้อยกว่า 3,000 คน แบ่งเป็นปี 2566 จำนวน 32 เวที โดยมีผู้เข้าร่วมไม่น้อยกว่า 2,100 คน และปี 2567 จำนวน 8 เวที โดยมีผู้เข้าร่วมไม่น้อยกว่า 900 คน 

"สภาพัฒน์ฯ" พยายามที่จะให้ทุกฝ่ายได้มีส่วนร่วมในการจัดทำแผนแม่บทในครั้งนี้เพื่อลดความขัดแย้ง และความซ้ำซ้อนในการทำงานลง เบื้องหากแผ่นแม่บทการพัฒนาพื้นที่สงขลา และ ปัตตานีแล้วเสร็จ จะมีการคัดเลือกแนวทางที่เหมาะสมกับการพัฒนาพื้นที่ต่อไป ทั้งนี้สภาพัฒน์ฯคาดกการณ์ว่า หากแผนออกมาแล้วจะเกิดการพัฒนาเชิงพื้นที่ในพื้นที่ภาคใต้ที่มีความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

สภาพัฒน์ใช้คำว่า แผนแม่บทการพัฒนาพื้นที่สงขลา-ปัตตานี เข้าใจได้ว่ายังไม่เลือกพื้นที่ แต่ประชาชนทั่วไปรับรู้กันหมดแล้วว่า จะเกิดขึ้นในสามตำบลของอำเภอจะนะ ย่านตำบลตลิ่งชัน ต.สะกอม นั่นแหละ

‘ก้าวไกล’ ขวางย้าย ‘หมอสุภัทร’

โดย "ก้าวไกล" ออกแถลงการณ์ ไม่เห็นด้วย ปมย้าย "หมอสุภัทร" พร้อมเรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุข ทบทวนคำสั่ง

โดยแถลงการณ์ระบุว่า พรรคก้าวไกลขอแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับคำสั่งดังกล่าว และขอตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการโยกย้ายด้วยเหตุผลทางการเมืองหรือไม่ เนื่องจากนายแพทย์สุภัทรเป็นข้าราชการที่ทำงานเป็นปากเสียงแทนประชาชน มีความกล้าหาญในการแสดงความเห็นคัดค้านผู้มีอำนาจ และเปิดเผยข้อมูลสาธารณสุขที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมอย่างต่อเนื่อง จึงขอให้กระทรวงสาธารณสุขทบทวนคำสั่งดังกล่าวโดยคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศและประชาชน

ด้านนายแพทย์สุภัทร โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุตอนหนึ่งว่า ปี 2563 ผมรับภารกิจเป็นประธานชมรมแพทย์ชนบทอีกตำแหน่งหนึ่ง ทำหน้าที่ทักท้วงเสนอแนะเรื่องราวใน สธ. อาทิ การไม่เห็นด้วยต่อนโยบายกัญชาเสรี การโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม การบริหารจัดการโควิดและวัคซีน การไม่ลงนามงบส่งเสริมป้องกันปี 2566 หรือ การซื้อ ATK ที่มีข้อสงสัย สิ่งเหล่านี้สร้างความหงุดหงิดต่อใครบางคน จนนำมาสู่คำสั่งให้ย้ายผมให้ได้ก่อนยุบสภา

จริงๆการจะย้ายผมไม่ยากเลย เพียงแค่ปลัดกระทรวงสั่งย้ายตามอำนาจที่ท่านมี (แต่ต้องมีเหตุมีผลด้วยนะ) แต่เพราะตำแหน่งผมเป็นตำแหน่งวิชาการระดับเชี่ยวชาญ ไม่มีเกณฑ์ที่ต้องถูกย้ายตามวาระ เหตุความผิดที่ต้องถูกย้ายก็ไม่มี ผมเองก็ไม่ได้สมัครใจย้าย ปลัดกระทรวงจึงไม่กล้าเซ็นเอง เพราะกลัวผิดกฎหมายอาญา ม. 157 ก็เลยต้องมีการสั่งการให้ผู้ตรวจราชการเป็นคนเซ็น ใครลงนามจะได้เลื่อนชั้นรวดเร็ว เรื่องราวจึงโกลาหล

เมื่อการโยกย้ายนายแพทย์สุภัทร มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง พรรคก้าวไกลคัดค้านเรียกร้องให้ทบทวน เจ้าตัวก็ไม่เต็มใจ แต่อาชีพรับราชการการโยกย้ายถือเป็นเรื่องปกติ และไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งแห่งหนใดก็สามารถแสดงความคิดเห็น จุดยืนได้อยู่แล้ว นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย จึงออกมาตั้งข้อสังเกตผ่านโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว(Suphachai  Jaismut) ว่า

เป็น “น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า” หรือเปล่า

นายศุภชัยตอกย้ำว่า การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการประจำเป็นเรื่องปกติของระบบราชการ คนมีความรู้ความสามารถรับราชการอยู่ที่เดิมพัฒนาหน่วยงานให้บริการดี การโยกย้ายคนเก่งแบบที่ว่าไปช่วยพัฒนาที่อื่นประชาชนก็จะได้ประโยชน์ทัดเทียมกับเขาบ้าง คงจะเป็นไปไม่ได้ที่ข้าราชการท่านนั้นจะคิดว่าเก้าอี้หรือตำแหน่งนี้จะเป็นของตนตลอดชั่วกัลป์ เพราะการโยกย้ายข้าราชการผู้บังคับบัญชาย่อมยึดหลักกฎหมายและระเบียบต่างๆ ดูความเหมาะสมและยึดประโยชน์ประชาชน

“ผมเข้าใจท่าทีนี้ของพรรคก้าวไกล เพราะที่ผ่านมาหมอสุภัทร กับทางพรรคอนาคตใหม่ ไปจนถึงพรรคก้าวไกล ก็มีการเคลื่อนไหวสอดรับกันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ขอยกตัวอย่างเช่นข่าวที่ปรากฏมาในวันที่ 22 กุมภาพันธุ์ 2563 ภายหลังมีการตัดสิน ให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ ก็เป็นหมอสุภัทร ที่ออกมาชวนมวลชน ให้ลุกขึ้นมาคัดค้านการตัดสินของศาล ท่านโพสต์เฟซบุ๊ก ว่า

“เบื้องต้น ผมอยากเชิญชวนเราคนไทย ประกาศตัวตนความเป็นไทไม่ยอมรับรัฐบาลและเผด็จการรัฐสภา ด้วยการโพสต์ภาพ “ชูสามนิ้ว” เพื่อแสดงออกถึงจุดยืนของเรากันก่อน หากผู้คนกล้าประกาศตัว “ชูสามนิ้ว” กันเป็นล้านคน ย่อมสะเทือนซางของรัฐบาลไม่น้อย แล้วค่อยๆ ปรึกษาหารือเป็นกลุ่มเล็กกลุ่มน้อย ใครทำอะไรได้ก็ทำ ร่วมตรวจสอบเลื่อยขาเก้าอี้เผด็จการจากทุกสารทิศกันต่อไป”

ไม่ผิดเลย หากจะบอกว่าคุณหมอ คือแนวร่วมคนสำคัญของพรรคก้าวไกล ที่มักจะตรวจสอบการทำงานของกระทรวงสาธารณสุขอยู่บ่อยครั้ง โดยคุณหมอ ลืมที่จะตรวจสอบพฤติกรรมของคนในชมรม ทั้งเรื่องของผู้หลักผู้ใหญ่ในหน่วยงานของคุณหมอเอง ที่มีข่าวล็อกสเป็ก การจัดหาชุดตรวจ ATK จนทางองค์การเภสัชกรรมต้องฟ้อง ปปช. แล้วไหนจะยังเรื่องของการที่ผู้ใหญ่ ในชมรมแพทย์ชนบทบางคน เมื่อครั้งเป็นผู้บริหารโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดภาคใต้ ปรากฏว่าให้โรงพยาบาล ไปรับดูแลเคสผู้ป่วยโควิด 19 ในกรุงเทพ ที่สุดแล้ว ถูกร้องเรียนเรื่องปล่อยปละละเลยผู้ป่วย ที่มาพร้อมกับข้อสงสัยว่า โรงพยาบาลแห่งนั้น ได้ดูแลผู้ป่วยตามจำนวนที่เบิกเงินหลวงหรือไม่ ถึงวันนี้ เรื่องก็ยังคลุมเครืออยู่

เข้าใจว่าหมอสุภัทรเอง มีทัศนคติทางการเมืองเช่นไร บางเรื่อง ท่านก็ตรวจสอบกันเอาเป็นเอาตาย แต่บางเรื่องท่านนิ่งๆ ไป ไม่พูดถึง ทว่าที่มันชัดเจนคือ ตัวท่าน กับพรรคก้าวไกลนั้น นับว่ามีสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เพราะเคลื่อนไหวแบบสอดประสานกันมาตลอด

เมื่อครั้งพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ หมอสุภัทร ออกมาเป็นแกนนำค้าน 

เมื่อหมอสุภัทรถูกย้าย พรรคก้าวไกล ก็ออกมาสกัด แบบนี้เรียกว่า

“น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า”

แต่พึ่งกันไป พึ่งกันมา มันก็มีเรื่องที่ต้องพึงระวัง เพราะสิ่งที่ท่านทำอาจผิดกฎหมาย

การโยกย้ายมีผลตามกฎหมายแล้ว แต่เรื่องนี้กำลังกลายเป็นประเด็นทางการเมืองไปแล้ว และวันนี้จะมีม็อบคัดค้านการโยกย้ายเกิดขึ้นที่อำเภอจะนะแน่นอน อยู่ที่กระทรวงสาธารณสุขจะยืนหยัด หรือจะทบทวน แต่ดูท่าทีแล้ว ไม่ทบทวนแน่นอน

เรื่อง : นายหัวไทร