'ลุงหนู' ขอคนกรุงเชื่อมั่น!! 'พรรค ภท.' เลือกแต่คนมีของ ขอโอกาสได้ลองทำงานตามสไตล์พรรครับใช้กรุงเทพฯ

'อนุทิน' เสนอตัวทำงานให้คนกรุงเทพฯ ครั้งแรก ดึงส.ส.กรุงเทพฯ หวังแก้ปัญหาให้ สั่น พร้อมเป็นนายกฯ หาก ภท.ชนะเลือกตั้ง ไม่หวั่นเสียงส.ว. ระบุ ทำงานได้กับทุกคน แจง ปมย้าย 'หมอสุภัทร' ไม่ใช่หน้าที่รมต. พร้อมไม่เคยมองใครในกระทรวงเป็นเสี้ยนหนาม

(29 ม.ค.66) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ขณะลงพื้นที่บริเวณชุมชนวัดมะกอก เขตสามเสนใน กรุงเทพฯว่า การลงพื้นที่นี้ก็ถือเป็นการมาศึกษาปัญหาของพี่น้องที่อยู่ในชุมชนที่ตนเองเกี่ยวข้อง และแก้ปัญหาให้ถูกต้อง ซึ่งพรรคภูมิใจไทยเราก็เป็นครั้งแรกที่มาเสนอตัวเป็นตัวเลือกให้กับพี่น้องประชาชนคนกรุงเทพฯ โดยตนเชื่อว่าถ้าคนกรุงเทพฯ รู้จักพรรคภูมิใจไทยแล้วก็น่าจะชอบในสไตล์พรรคที่กล้าตัดสินใจ

โดยคนกรุงเทพฯ ก็คงได้เห็นสิ่งที่พรรคภูมิใจไทยทำไว้ทั่วประเทศที่ได้ให้สัญญาไว้เมื่อครั้งเลือกตั้งปี 2562 ในหลาย ๆ เรื่องเราก็ได้ส่วนงานที่เราเกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาให้กรุงเทพฯ ถึงแม้ว่าเราจะไม่มีส.ส.ในกรุงเทพฯ เลยก็ตาม วันนี้เราได้นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ และส.ส.หลายมา เชื่อว่าพรรคภูมิใจไทยจะผลักดันนโยบายและเจตนารมณ์ได้ด้วยสไตล์การทำงานของพรรคภูมิใจไทย พูดง่าย ๆ ว่าตอนนี้เรามีของ มีน้ำมีเนื้อ ไม่ใช่ว่าเอาใครก็ไม่รู้ที่เราไม่รู้จักกันมาเสนอให้คนกรุงเทพฯ แต่นี่เราเอาส.ส.กรุงเทพฯ มาเสนอจะได้ทำงานต่อเนื่องไป

เมื่อถามพรรคภูมิใจไทยในการเลือกตั้งที่ผ่านมาไม่ติด 1 ใน 4 ของกรุงเทพฯ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็สาเหตุนี้เราจึงต้องเชิญนายพุทธพงษ์ และส.ส.กรุงเทพฯ มาทำงาน เราเลือกส.ส.ที่เข้าใจ ปัญหาต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ และใกล้ชิดกับประชาชน

วันนี้ไม่ใช่ป่าล้อมเมืองแต่เป็นคนที่มีความตั้งใจที่จะทำงาน มีความคุ้นเคยกับกรุงเทพฯ ซึ่งก่อนหน้านี้พรรคภูมิใจไทยไม่เคยคุ้นเคย แต่วันนี้เรามีทีมที่จับต้องได้เข้าใจปัญหาจะได้มาช่วยกันทำงาน

เมื่อถามว่ามีคนมองว่าคะแนนฝั่งรัฐบาลอาจจะมีความรุนแรง นายอนุทิน กล่าวว่า ตนว่าพรรคภูมิใจไทยการเข้ามาในกรุงเทพฯ ครั้งนี้ก็ดีไปอย่าง เข้ามาแล้วเราไม่มีความขัดแย้งอะไรกับใคร และพรรคภูมิใจไทยก็แสดงให้ประชาชนเห็นแล้วว่าความรุนแรงไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้ ซึ่งพรรคเราใช้โอกาสสร้างงานสร้างรายได้ โดยพรรคภูมิใจจะทำทุกอย่างให้ ได้รับการแก้ไขด้วยเหตุและผลและด้วยลดกระบวนการทางรัฐสภา

เมื่อถามว่ามีหนึ่งพรรคที่จะไม่จับมือกับใครเรามองอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า เราพยายามที่จะไม่เป็นขั้วหรือเป็นฝั่งเป็นฝ่าย พรรคใดก็ตามที่ได้รับเลือกให้ส.ส.เข้ามาทำงาน โดยประชาชนเลือกเข้ามาเราต้องให้เกียรติประชาชน ซึ่งส.ส.ไม่ได้เป็นของพรรค แต่แค่ในนามพรรค ฉะนั้นเราให้ผลของการเลือกตั้งเป็นตัวตัดสินจะไม่ดีกว่าหรือ พรรคภูมิใจไทยเชื่อว่าถ้าประชาชนให้คะแนนกับพรรคการเมืองใดใดก็ตาม นั่นคือความต้องการของประชาชน

เมื่อถามว่า นายวันชัย สอนศิริ ส.ว. ระบุว่าพรรคเราจะจับมือกับเพื่อไทยและพลังประชารัฐ พรรคที่เหลือเป็นฝ่ายค้าน นายอนุทิน กล่าวว่า ขอขอบคุณในความหวังดีของทุกฝ่าย นายวันชัยก็เป็นคนที่ตนรู้จักดีเป็นนักกฎหมายตนเชื่อถือท่าน แต่ในเรื่องการจับมือขั้วการเมืองนั้น ขอให้พรรคภูมิใจไทยได้ตัดสินใจด้วยตนเอง การนำเอาเสียงส.ส.ที่ประชาชนให้กับเรามาเป็นตัวกำหนดทิศทาง

เมื่อถามว่าถ้าพรรคเรามีคะแนนมาเป็นอันดับ 1 จะเป็นนายกฯ หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนก็ต้องเป็นนายกฯ เพราะตนเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพียงคนเดียว โดยที่ปราศรัยหามรุ่งหามค่ำลงพื้นที่ตลอด

เมื่อถามย้ำกลัวส.ว.หรือไม่ เพราะส.ว.ต้องเลือกนายกฯ นายอนุทิน กล่าวว่า ประชาชนเลือกเรามาเยอะขนาดนี้ กลัวแค่ประชาชน พรรคภูมิใจไทยตนสอนให้ทุกคนว่าต้องไม่กลัวอะไรทั้งสิ้นยกเว้นกลัวประชาชน

เมื่อถามว่าถ้าต้องทำงานกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อีกรอบไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม นายอนุทิน กล่าวว่า ตนไม่มีปัญหาในการทำงานกับใครทั้งสิ้น เพราะเวลาที่เราเข้าไปทำงานเราก็ต้องรู้บทบาทหน้าที่ของเรา และเราก็จะทำงานในหน้าที่บทบาทของตนเองให้ดีที่สุด

เมื่อถามถึงกรณีโยกย้าย นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ ไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลสะบ้าย้อย นายอนุทิน กล่าวว่า การโยกย้ายข้าราชการที่ต่ำกว่า ซี10 เป็นเรื่องของปลัดกระทรวงทุกกระทรวง ส่วนกระทรวงสาธารณสุขนั้นก็เป็นดุลพินิจการพิจารณาของปลัดกระทรวง รัฐมนตรีหรือฝ่ายการเมืองไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

เมื่อถามย้ำว่าการสั่งโยกย้ายครั้งนี้เป็นการเอาใจเพราะนพ.สุภัทรเป็นเหมือนเสี้ยนหนามตนเอง นายอนุทิน กล่าวว่า คนในกระทรวงทุกคนเป็นมิตรและทำงานด้วยกันจะมาเป็นเสี้ยนหนามกันทำไม ตนไม่เคยเกลียดใครตนพยายามจะรักทุกคนเพราะทุกคนคือคนทำงาน ตนต้องให้เกียรติเพราะทุกคนเป็นข้าราชการเป็นคนของประชาชน