ประชาชาติ จัดปราศรัย ชน ปชป.

พรรคประชาชาติจัดเวทีปราศรัยพบปะกลุ่มสตรีในจังหวัดนราธิวาส ที่ห้องประชุมปลายสยาม โรงแรมเคปเก็นติ้ง อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส ซึ่งได้รับความสนใจจากกลุ่มสตรีจำนวนหลายร้อยคนมาร่วมรับฟังการศรัยจนแน่นเต็มห้องประชุม โดย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรคประชาชาติ และนายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ รองหัวหน้าพรรคประชาชาติ มาปราศรัยช่วยหาเสียงในพื้นที่นราธิวาส เขต 2 ซึ่งพรรคประชาชาติส่งนายนายเจ๊ะซู ตาเหย็บ เป็นผู้ลงสมัคร นอกจากนี้ ยังมี นายสุรเชษฐ์ แวอาแซ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ที่ได้ย้ายมาสังกัดพรรคประชาชาติ และล่าสุดเพิ่งจะได้รับเลือกเป็นรองหัวหน้าพรรค ได้ร่วมขึ้นเวทีปราศรัยด้วย ท่ามกลางเสียงปรบมือและเสียงเชียร์ตลอดเวลา

 

นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ รองหัวหน้าพรรคประชาชาติ พู#เซาท์ไทม์ าบ’ หรือผ้าคลุมศีรษะที่เป็นคุณค่าและอัตลักษณ์ของสตรีมุสลิม กล่าวว่า กว่าสตรีมุสลิมจะได้มีสิทธิเสรีภาพสวมฮิญาบอย่างภาคภูมิเช่นในวันนี้ ต้องผ่านการต่อสู้และเรียกร้องมาอย่างยาวนาน จนวันนี้โลกได้กำหนดให้ทุกวันที่ 1 กุมภาพันธ์ เป็นวันฮิญาบโลก และพรรคประชาชาติได้ต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพเรื่องนี้มาโดยตลอด

 

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เริ่มการปราศรัยด้วยการพูดถึงการตอบคำถามจากสื่อมวลชน ว่าสื่อมวลชนถาม ในฐานะที่พรรคประชาชาติเป็นเจ้าของพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีความกังวลหรือไม่ที่มีแกนนำพรรคการเมืองหลายพรรคลงพื้นที่มาปราศรัยถี่มากในช่วงนี้ เช่นวันนี้มีพรรคประชาธิปัตย์มาปราศรัยที่ อ.สุไหงโกลกด้วย พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า “ผมก็พยายามนึกว่า ส.ส.ประชาธิปัตย์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้มีกี่คน ก็นึกได้ว่าไม่มีสักคน เดิมมี ส.ส.อันวาร์ สาและ อยู่หนึ่งคน แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว นราธิวาสเขต 2 อ.ตากใบ อ.สุไหงโกลกแชมป์เก่าก็ไม่ใช่ประชาธิปัตย์ แต่เป็นของพลังประชารัฐ แต่หลังการเลือกตั้งครั้งนี้ เขตนี้จะเป็นของเจ๊ะซู พรรคประชาชาติ”

 

พ.ต.อ.ทวี กล่าวอีกว่า “การที่จะวัดว่าประเทศไหนมีความเจริญแล้วไม่ได้วัดกันที่ขนาดของอาณาจักร แต่วัดกันที่คนมีคุณภาพหรือไม่ ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่เราจะทำรัฐสวัสดิการ ต้องทำให้เด็กแรกเกิด ถึง 6 ขวบ ต้องได้รับค่าเลี้ยงดู 4,500 บาท/เดือน เพราะทุกวันนี้แม่ให้นมลูกน้อยมาก ให้แต่นมกระป๋อง แต่เราต้องการให้แม่ให้นมลูกจากเต้ามากกว่า 90% ถ้าแม่ให้นมลูกอยู่ที่บ้านแล้วมีการสนับสนุนจากรัฐบาล ให้เลยเส้นความยากจน ก็จะทำให้แม่อยู่บ้านเลี้ยงดูลูกได้ และเด็กที่มีอายุระหว่าง 7-15 ปี จะต้องได้รับค่าเลี้ยงดู 3,000 บาทต่อเดือน ส่วนพ่อแม่ก็มีสิทธิลาคลอดได้ 6 เดือน เพื่อจะได้มีเวลาเลี้ยงดูบุตร”

 

ขณะที่ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ปราศรัยปิดท้าย โชว์ลีลาการปราศรัยเป็นภาษามลายู ทำให้สื่อสารนโยบายเข้าใจได้อย่างลึกซึ้ง และกินใจได้มากกว่า ซึ่งนี่เป็นจุดเด่นของพรรคประชาชาติที่พรรคอื่นทำไม่ได้ โดย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา กล่าวว่า “การเลือกตั้งในครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งถึงเวลาจริง ๆ แล้วที่เราจะต้องเปลี่ยนรัฐบาล 8 ปี ที่พลเอกประยุทธ์อยู่ ประชาชนได้ประโยชน์อะไรบ้าง เราเลือกตั้งครั้งนี้เพื่อเปลี่ยนชะตาชีวิตตนเอง ให้ฝ่ายประชาธิปไตยเข้าไปเป็นรัฐบาล ถ้าหากมีพรรคการเมืองไหนให้เงินมาก็รับไว้ แต่จำไว้ว่าเขาตั้งใจมาหลอกเรา ดังนั้นเราหลอกเขากลับ คืออย่าไปกาเลือกเขา รับเงินมา กาประชาชาติ วันนี้มาฟังปราศรัยประชาชาติแล้วอย่าลืมกลับไปบอกเล่าต่อให้สามีฟังที่บ้าน ถ้าสามีไม่ฟัง ก็ไม่ต้องหุงข้าวให้กิน” ลีลาการปราศรัยของหัวหน้าพรรคประชาชาติ ทำเอาบรรดาสตรีตั้งใจฟัง และปรบมือชอบใจตลอดเวลา โดยไม่มีใครลุกออกไปจากห้องประชุมแม้แต่คนเดียว

 

#เซาท์ไทม์