“ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ”

วันที่ 27 มี.ค.2566 - นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางยุทธศาสตร์ภาคใต้ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงนโยบายในการพัฒนาพื้นที่ภาคใต้ว่า 4 ปีที่ผ่านมารัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้อัดงบลงพื้นที่ภาคใต้เป็นจำนวนกว่า 250,000 ล้านบาท

 

เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและแหล่งน้ำ นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายโครงการที่พรรครวมไทยสร้างชาติเล็งเห็นว่า จะต้องทำต่อเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและพัฒนาพื้นที่ภาคใต้ตามนโยบาย “ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ” โดยจะเดินหน้าสานต่อนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งมีผู้ใช้สิทธิจำนวน 14.6 ล้านคน เป็นบัตรสวัสดิการพลัสเพิ่มเงินเป็น 1,000 บาท การปล่อยกู้ฉุกเฉิน 10,000 บาท เบี้ยผู้สูงอายุ 1,000 บาท กองทุนฉุกเฉินประชาชน 30,000 ล้านบาท เพื่อช่วยประชาชนที่ลำบากลดเงื่อนไขการปล่อยกู้

  

ทั้งนี้ พรรครวมไทยสร้างชาติจะสานงานต่อทางด้านการท่องเที่ยว จากตัวเลขภาพรวมนักท่องเที่ยวของไทย ปี 2565 มีนักท่องเที่ยว 11 ล้านคน มีการตั้งเป้าว่าในปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยว 27.5 ล้านคน สร้างรายได้ 2.33 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการทำงานอย่างหนักของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ที่ทำให้ประเทศก้าวผ่านวิกฤติโควิด-19 มาได้จนทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความเชื่อมั่นและกลับมาท่องเที่ยวในไทย

 

ซึ่งการกลับมาของนักท่องเที่ยวจะช่วยกระจายเม็ดเงินสู่ชุมชน เกิดการสร้างอาชีพผลิตภัณฑ์ชุมชนที่เป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่ภาคใต้ การส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างเป็นระบบจะทำให้ผลิตภัณฑ์ชุมชนมีราคาดีขึ้น

 

นายธนกร กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังต้องการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติม อาทิ แผนพัฒนาแลนด์บริดจ์เชื่อมภาคใต้ เพื่อลดระยะเวลาในการเดินทางและขนส่ง ซึ่งรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ได้มีการศึกษาโครงการดังกล่าวมาแล้วทั้งการพัฒนาท่าเรือจังหวัดระนองและท่าเรือชุมพร รวมถึงการสร้างมอเตอร์เวย์และรถไฟทางคู่ แต่ทั้งหมดจะต้องคำนึงถึงการมีส่วนร่วมของชาวบ้านในพื้นที่ ทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและจุดคุ้มทุนทางเศรษฐกิจ ซึ่งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานจะเชื่อมโยงการพัฒนาด้านการเกษตรในพื้นที่ด้วยเรื่องการกระจายผลผลิตและสินค้าทางการเกษตร และพรรครวมไทยสร้างชาติยังพร้อมผลักดันนโยบายการพยุงราคาสินค้าเกษตรเพื่อช่วยเกษตรกร

 

นายธนกร กล่าวด้วยว่า เศรษฐกิจในพื้นที่ภาคใต้ยังมีโอกาสเติบโต เนื่องจากมีศักยภาพในหลายด้านรวมถึงการทำอุตสาหกรรมส่งออกอาหารฮาลาล ที่ปัจจุบันไทยส่งออกเป็นอันดับ 13 ของโลก หากพรรครวมไทยสร้างได้เข้ามาบริหารประเทศ ก็พร้อมที่จะส่งเสริมธุรกิจอาหารฮาลาลในตลาดโลกให้เติบโตมากขึ้น จึงอยากให้พี่น้องประชาชนมั่นใจว่า นโยบายของพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นนโยบายที่ทำได้จริง และรัฐบาลภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ ก็ทำสำเร็จมาแล้ว

 

ดังนั้น ในการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในวันที่ 14 พ.ค.นี้ พี่น้องประชาชนที่รักลุงตู่ ต้องออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง และเลือกทั้งคนทั้งพรรค เพื่อให้พลเอกประยุทธ์ได้กลับมาบริหารประเทศทำตามนโยบายที่พรรครวมไทยสร้างชาติหาเสียงไว้เพื่อพัฒนาประเทศและช่วยดูแลพี่น้องประชาชน

 

โดยการเลือกตั้งภาคใต้มั่นใจว่า จะสามารถพาผู้สมัคร ส.ส.เข้าสู่สภาฯได้ไม่ต่ำกว่า 25 ที่นั่งจากทั้งหมด 60 ที่นั่งเพราะพรรคได้ผู้สมัครที่มีศักยภาพใกล้ชิดประชาชน อีกทั้งพรรคมีนโยบายที่ดีตอบโจทย์ประชาชน ที่สำคัญคนใต้รักพลเอกประยุทธ์