Friday, 19 April 2024
อาหารทะเล

สุดชื่นมื่น! ฤดูกาลกุ้งแชบ๊วย 'อูแดอากอบือซา' หวนกลับมาอีกครั้ง สร้างรอยยิ้มให้ลูกหลานชาวประมงปะนาเระ

วันที่ 13 ม.ค. 2566 บรรยากาศการทำประมงของสมาชิกกลุ่มชมรมประมงพื้นบ้าน อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี ในช่วงเริ่มแรกของฤดูกาล การทำประมงวางอวนลอยกุ้งแชบ๊วยของชาวประมงที่นี่ ทำให้ชาวประมงต้องนำเรือแข่งกับเวลาในการวางอวนกุ้งแชบ๊วย หลังคลื่นลมเริ่มสงบไปบ้างแล้ว ทำให้ชาวประมงนำกุ้งแชบ๊วยขนาดใหญ่ นำขึ้นฝั่ง สร้างความชื่นมื่น และรอยยิ้มให้กับลูกหลานชาวประมงอย่างเห็นได้ชัด เพราะสามารถตอบโจทย์ในเรื่องรายได้ให้กับชาวประมงตลอดฤดูกาลได้เป็นอย่างดี นอกจากกุ้งแชบ๊วยแล้ว ยังมีกุ้งกุลาดำไซซ์ใหญ่ที่ติดอวนแถมมาอีกด้วย

ทั้งนี้ คงต้องยกประโยชน์ความดีให้กับ ศูนย์วิจัยพัฒนาเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งปัตตานี โดยนายทศพล พลรัตน์ ว่าที่นักวิชาการประมงชำนาญการและทีมงานที่ได้ทุ่มเทเวลาในการผลิตพันธุ์กุ้งแชบ๊วย พันธุ์กุลาดำ มาปล่อยตลอดทั้งปี เพื่อเพิ่มพันธุ์สัตว์ในแหล่งน้ำธรรมชาติ บวกกับการดูแลพื้นที่เขตอนุรักษ์ของกลุ่มชมรมประมงปะนาเระ ที่มีความเข้มแข็งเป็นยาวนานนับกว่า 10 ปี จนเป็นประจักษ์พยานอย่างเห็นได้ชัดว่า สามารถตอบโจทย์ได้ดีว่าการฟื้นฟู่ทะเล การฟื้นฟู่ทรัพยากรสัตว์น้ำต้องทำควบคู่กันไปถึงจะประสบกับความสำเร็จ

ภาพถ่ายลูกหลานชาวประมงขณะกำลังถือกุ้งแชบ๊วย กุ้งกุลาดำ ไซด์ใหญ่ด้วยรอยยิ้มที่ไม่สามารถตีเป็นมูลค่าได้นั้น คือหน้าที่ของผู้นำหรือผู้บริหารประเทศควรกระทำอย่างต่อเนื่อง และต่อไป แม้ไม่สามารถตอบโจทย์มูลค่าของการขยายเศษฐกิจในภาพรวมของประเทศไทยได้ แต่อย่างน้อยเป็นการลงทุนที่สามารถสร้างรอยยิ้มให้ชาวบ้าน ที่เป็นชาวประมงในระดับรากหญ้าได้ นับเป็นการลงทุนของภาครัฐที่ทรงคุณค่ายิ่ง

เริ่มแล้วฤดูล่า 'หอยหลอด' ชาวบ้านอำเภอละงูและ นทท.แห่ร่วมกิจกรรม ลุยโคลนยอนหอยหลอด สร้างรายได้และอนุรักษ์ทรัพยากรให้มีความยั่งยืน

วันนี้ (25 ม.ค. 2566) ที่หาดบ้านหัวหิน หมู่ 1 ตำบลละงู อำเภอละงู จังหวัดสตูล ทันทีที่เปิดโต๊ะลงทะเบียนของเจ้าหน้าที่ อบต.ละงู ชาวบ้านชายหญิง นักเรียน นักศึกษา นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และผู้ช่ำชองเรื่องหอยในหมู่บ้านริมทะเลแห่งนี้ ต่างเป็นอาสาสมัครในการล่าหอยหลอด ตามแบบฉบับวิถีชาวละงู

โดยทุกคนพร้อมรับอุปกรณ์ที่กำหนด คือ ปูนขาวคนละแม่มือ และทางมะพร้าวที่ใช้สำหรับยอน หรือแหย่ลงไปในรูของหอยหลอด เพื่อร่วมสนุกในการแข่งขันชิงเงินรางวัลอันดับ 1 จำนวน 2,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลและเกียรติบัตร รางวัลที่ 2 จำนวน 1,500 บาท และรางวัลที่ 3 จำนวน 1,000 บาท ส่วนรายอื่น ๆ ที่หาหอยหลอดมาได้ ทางผู้จัดจะรับซื้อทั้งหมดในราคา กก.ละ 180 บาท เพื่อนำหอยหลอดเหล่านี้ ไปเป็นวัตถุดิบในการแข่งขันแปรรูปเมนูหอยหลอด

โดยกิจกรรมในครั้งนี้ทาง อบต.ละงู ได้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 14 แล้ว หลังว่างเว้นมา 2 ปีจากสถานการณ์โควิด-19 มาปีนี้มีผู้เข้าร่วมแข่งขันมากมายเช่นเคย และที่สำคัญในปีนี้มีชาวต่างชาติอย่างประเทศญี่ปุ่น เกาหลี และฝรั่งเศส เข้าร่วมสนุกกับกิจกรรม และเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวประมงในพื้นที่ จ.สตูล อีกด้วย สร้างความตื่นตาตื่นใจ และสนุกสนานไปกับกิจกรรมดังกล่าว


TRENDING
© Copyright 2022, All rights reserved. South Time Thailand
Take Me Top