Monday, 29 April 2024
NewsFeed

‘อนุทิน’ จ่อชงครม.แก้กฎกระทรวง ครอบครองยาบ้า 1 เม็ด เป็นผู้เสพ 2 เม็ด เป็นผู้ค้า หวังแก้ปัญหาผู้ค้าเลี่ยงกม. ลั่น! ต้องมีมาตรการ จัดการเด็ดขาด

(30 ม.ค.66) เมื่อเวลา 10.20 น. ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงการออกกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์กำหนดการครอบครองยาบ้าเกิน 1 เม็ดเป็นผู้ค้าว่า ตนได้รับรายงานจากปลัดกระทรวงสาธารณสุข ว่ากำลังจัดเตรียมประกาศอยู่ ซึ่งเป็นผลมาจากคณะกรรมการการบำบัดรักษา ฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด และจะมีการนำเสนอให้ตนได้ลงนาม ขณะนี้กำลังเตรียมเอกสารอยู่ ซึ่งมาตรการนี้เป็นร่างของกฎกระทรวง ซึ่งจะต้องนำเสนอให้ครม.เห็นชอบด้วยก่อนประกาศในราชกิจานุเบกษาฯ

ผู้สื่อข่าวถามว่า การกำหนดให้ยาบ้า 1 เม็ด เป็นผู้เสพ และ 2 เม็ดขึ้นไปเป็นผู้ค้า จะทำให้สถานการณ์ยาเสพติดดีขึ้นหรือไม่ นายอนุทิน เรื่องนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใต้คณะกรรมการดังกล่าวได้มีการหารือกันเยอะมาก ส่วนใหญ่นึกถึงเยาวชน ความมั่นคงของครอบครัว และสังคม ซึ่งเรื่องการปฏิบัติงานที่บอกว่าเราไม่ปราบปรามยาเสพติดให้เด็ดขาดเพราะกลัวคุกไม่พอขัง คณะกรรมการส่วนใหญ่เห็นว่าไม่ใช่เหตุผล แต่เหตุผลคือต้องมีมาตรการที่เด็ดขาด ทำให้เห็นว่ากระบวนการทางกฎหมายมีประสิทธิภาพ ส่วนที่บอกว่าคุกไม่พอขังวันนี้ก็ไม่พอขังอยู่แล้ว การปฏิบัติก็เป็นหน้าที่ของตำรวจ สำหรับกระทรวงสาธารณสุขก็ต้องไปหางบประมาณเพื่อมาทำในเรื่องของระบบการบำบัดผู้ติดยาเสพติด

‘ลุงหนู’ ลั่น ‘บุญจง’ พร้อมชิงพื้นที่โคราช มั่นใจ!! นโยบายพรรคเรียกความเชื่อมั่น ปชช. ได้

(30 ม.ค.66) เมื่อเวลา 10.20 น. ที่ทําเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ กลับมาร่วมงานกับพรรค ภท. ว่า นายบุญจง จะลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.นครราชสีมา แทนนายอภิชา เลิศพชรกมล ที่ลาออกไป โดยนายบุญจง ถือเป็นผู้ที่ร่วมก่อตั้งพรรค ภท. มาตั้งแต่ 10 กว่าปีที่แล้ว เคยเป็นรมช.มหาดไทย สมัยนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคคนเก่า เป็นรมว.มหาดไทย และในพื้นที่นครราชสีมา ตนเป็นหัวหน้าทีมเองร่วมกับ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคภท. จะช่วยกันดูแล เนื่องจากนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล หัวหน้าทีมคนเดิมแจ้งว่ามีปัญหาเรื่องสุขภาพ และลาออกจากการเป็นรัฐมนตรี ในโควตาของพรรคภท.

ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรค ภท. พร้อมรับมือกับคู่แข่งในพื้นที่ดังกล่าว หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า อย่าไปมองว่าใครเขาจะส่งหรือไม่ส่งลงสมัคร เพราะในทางการเมืองยังไม่เคยเจอเขตพื้นที่เลือกตั้งไหนที่ไม่มีคู่แข่ง หากคนนี้ไม่ลงแข่งก็ต้องลงแข่งกับคนนั้น เป็นเรื่องปกติ แต่สิ่งที่สำคัญคือทำอย่างไรให้คนของเราแข็งแรงมากที่สุด และลงไปใกล้ชิดทำความเข้าใจกับชาวบ้าน แม้แต่ตนยังเดินทางตลอดเวลา หมดเวลาราชการวันศุกร์ วันเสาร์ อาทิตย์ ก็ต้องอยู่ต่างจังหวัด เพราะการเลือกตั้งใกล้เข้ามาเต็มทน

เมื่อถามว่ากฎหมายลูกสองฉบับประกาศมีผลบังคับใช้แล้ว พรรค ภท.จะมีการปรับแผนอะไรในการหาเสียง หรือทำงานการเมืองอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า การหาเสียงเลือกตั้งมีแผน มีกำหนดการ มีวิธีการนําเสนอนโยบาย มีการประชุมวางกลยุทธ์ทุกอย่างตลอดเวลา และช่วงนี้พรรคได้นำเสนอทีมงานใน กทม.ที่จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับชาวกทม. สมัยก่อนเราเอาผู้ที่ประสงค์จะลงสมัครมาสมัคร ส.ส. แต่ในครั้งนี้ทีมงานที่พรรคนําเสนอ เป็นอดีต ส.ส. อดีตรัฐมนตรี ที่ทำงานได้ต่อเนื่อง เป็นบุคคลที่ลาออกแล้วย้ายมาอยู่กับพรรคภท.แสดงว่าเขามีความมั่นใจในพรรคและนโยบาย จึงลาออกจากส.ส.มาอยู่กับเรา เป็นมาตรวัดให้เห็นว่านโยบายของพรรค ที่ทำให้คนระดับส.ส.เชื่อมั่นและตัดสินใจมาร่วมงานด้วย

‘ศุภชัย’ ยกคำวินิจฉัย กกต.ตอก ‘เพจแพทย์ชนบท’ ปมดราม่า ‘ป้ายอนุทิน’ ไม่ผิดกฎหมาย เป็นการปฏิบัติภารกิจในอำนาจหน้าที่ทางราชการ!

จากกรณีที่เพจแพทย์ชนบท ให้ กกต. สอบเรื่องการขึ้นป้ายหน้าโรงพยาบาล ที่ปรากฏหน้า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข บนป้ายประชาสัมพันธ์นโยบายดูแลผู้สูงอายุอาจเข้าข่ายการหาเสียง ซึ่งผิดกฎหมาย

ล่าสุด (30 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ‘Suphachai Jaismut’ โดยนำรูปภาพเอกสารการพิจารณาของ กกต.ฉบับหนึ่ง พร้อมข้อความว่า

ไม่ผิดกฎหมายครับ

เรื่องที่เพจแพทย์ชนบท จะยื่น กกต. เพราะสงสัยว่า การที่โรงพยาบาลขึ้นภาพรัฐมนตรีว่าการกระทรวง สธ. อาจเข้าข่ายหาเสียง เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย นั้น

ผมอยากจะเรียนว่า เรื่องการขึ้นป้ายนั้น ไม่ผิดกฎหมายครับ

‘ลุงหนู’ ตอบชัด!! ไม่เคยพบ ‘ทักษิณ’ ครั้งเดินทางไปประชุมที่อังกฤษ

(31 ม.ค.66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกระแสข่าวลือ เรื่องนายอนุทิน ได้พบกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระหว่างปฏิบัติภารกิจที่ประเทศอังกฤษ ว่า

“ไม่เคยเจอนะ ผมไปยุโรปนี่ผมไปกับปลัดกระทรวงสาธารณสุข ท่านเลขา สปสช. และท่านเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงลอนดอน ท่านเอกอัคราชทูตไทย ท่านน่ารักมาก ผมจะทำ หนังสือไปถึงท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศด้วยซ้ำ ขอบคุณที่ท่านทูตใส่ใจ ไปร่วมประชุมกับผมทุกนัด ถือว่าเป็นสปีริตที่ดีมาก การที่เราไปประชุมพร้อมท่านเอกอัคราชทูตฯ ทำให้ฝ่ายที่หารือด้วยเกิดความมั่นใจ ในฐานะที่เราก็เป็นตัวแทนของประเทศไทย การหารือจึงสัมฤทธิ์ผล”

‘พุทธิพงษ์’ หนุนนโยบาย ทำสงครามกับยาเสพติด ยัน!! ‘ภูมิใจไทย’ มีแนวทางสะสางต้นตอปัญหา

(31 ม.ค.66) นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ หัวหน้าทีม กทม. พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวปราศรัยเดินหน้าประกาศสงครามกับยาเสพติดที่ใต้ทางด่วนชุมชนวัดมะกอกส่วนหน้า เขตพญาไท นั้นว่า ตนฟังอยู่ตลอด และคิดว่าเป็นเจตนาที่ดี เชื่อว่าร้อยทั้งร้อยประชาชนทุกคนเห็นด้วยแน่นอน โดยชาวชุมชนวัดมะกอกเองก็บอกว่าดีใจ และขอให้มีการปราบปรามอย่างจริงจัง ควบคู่ไปกับการให้ความรู้ประชาชนและบำบัดรักษาผู้ที่ติดยาเสพติดด้วย ส่วนเรื่องการออกหลักเกณฑ์ผู้เสพผู้ค้ายาบ้าใหม่จำนวนกี่เม็ดนั้น เป็นเรื่องของคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด กระทรวงสาธารณสุข ที่ยังต้องเสนอให้ ครม. พิจารณา ต่อไป

“ส่วนตัวผมที่เคยทำหน้าที่ทั้ง ส.ส.กทม. รองผู้ว่าฯ กทม. และเคยอยู่ในรัฐบาลด้วย ก็เห็นว่าเรื่องยาเสพติดเป็นปัญหาสำคัญที่ต้องแก้ไขอย่างจริงจัง และทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน การที่ฝ่ายค้านรีบออกมาติงว่าไม่เห็นด้วยกับหลักเกณฑ์ใหม่ก็เป็นเรื่องที่ต้องถกเถียงกันด้วยเหตุผลและข้อมูล อย่างไรก็ตามตนคิดว่านอกจากเราจะมองการแก้ปัญหาซึ่งเป็นเรื่องปลายเหตุแล้ว นโยบายของพรรคภูมิใจไทยโดยเฉพาะในพื้นที่ กทม. นั้น เรามองไปถึงต้นเหตุที่แท้จริงของปัญหาด้วย นั่นก็คือเรื่องความเหลื่อมล้ำของสังคม ปัญหาในครอบครัว การดูแลสวัสดิการและสภาพแวดล้อมที่ยังไม่ดีพอ ดังนั้นจึงเป็นที่มาของนโยบายสวัสดิการด้านต่าง ๆ เช่น สุขภาพและความเจ็บป่วย การพักหนี้ การเปิดพื้นที่ค้าขาย การลดภาระค่าเดินทางรถ ราง เรือ ฯลฯ และจะทยอยประกาศออกมาอีก พร้อมทั้งเชื่อว่าผู้แทนของพรรคภูมิใจไทยจะสามารถทำงานแก้ไขปัญหายาเสพติดร่วมกับผู้ว่าฯ กทม. ได้เป็นอย่างดี เพราะมีแนวทางที่สอดคล้องกัน” นายพุทธิพงษ์ กล่าว

‘สดช.-กองทุนดิจิทัลฯ’ จัดกิจกรรมสานฝันปันรักเพื่อน้อง สร้างโอกาสให้เด็กแก่งกระจาน เข้าถึงเทคโนโลยีในพื้นที่ห่างไกล

เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 66 นายภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) พร้อมด้วยนางสุรีพร พรโสภณวิชญ์ ผู้อำนวยการกองบริหารกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และนายภาณุวัฒน์ สุขสบาย ผู้อำนวยการกลุ่มนโยบายและแผนกองทุน พร้อมด้วยข้าราชการและเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ลงพื้นที่จัดกิจกรรม ‘สานฝันปันรักเพื่อน้อง ครั้งที่ 2’ ณ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนอินทรีอาสา (บ้านปาเกอะญอ) อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ และรอยยิ้มให้กับน้อง ๆ รวมถึงเพิ่มโอกาสทางการศึกษา ด้วยการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลแก่นักเรียนและชุมชนในพื้นที่ห่างไกลให้ทั่วถึงมากยิ่งขึ้น
.
นายภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวว่า “สดช. มีวิสัยทัศน์ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลอย่างยั่งยืน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน แม้จะอยู่ในพื้นที่ห่างไกล เพราะเป็นการสร้างโอกาสในการเข้าถึงเทคโนโลยี เพื่อวางรากฐานการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลประสิทธิภาพสูง รองรับรูปแบบและปริมาณการใช้งานในอนาคต และยังช่วยส่งเสริมให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการสร้างสรรค์นวัตกรรมในพื้นที่ห่างไกลทั่วประเทศ”
.
การจัดกิจกรรมสานฝัน ปันรักเพื่อน้อง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ในรอบปี 2566 ที่ได้ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนเพื่อรับทราบความต้องการของนักเรียน โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนอินทรีอาสา (บ้านปาเกอะญอ) ซึ่งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลอย่างแท้จริง โดยพบว่า เส้นทางการเดินทางมาโรงเรียนเป็นการเดินทางที่ยากลําบากและใช้ระยะเวลานาน รวมถึงการเข้าถึงสาธารณูปโภคยังมีความขาดแคลน เช่น มีข้อจํากัดเรื่องไฟฟ้า บางส่วนต้องใช้โซลาร์เซลล์เข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทําให้นักเรียนเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลได้ยากกว่าปกติ ทําให้การลงพื้นที่ครั้งนี้ได้เก็บข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เพื่อนำไปพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลต่อไป
.
ขณะเดียวกัน ก็ได้มีการจัดตั้ง ‘ศูนย์ดิจิทัล ชุมชนอินทรีอาสา’ ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนดิจิทัลเพื่อสังคมตามนโยบายและยุทธศาสตร์ของ สดช. เพื่อให้เกิดการรู้จัก เข้าใจ ใช้ได้ ใช้เป็น และมีโอกาสเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลมากยิ่งขึ้น
.
โดยนายภุชพงค์ กล่าวว่า “ในวันนี้ สดช. ได้นํากิจกรรมให้ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีดิจิทัล มาสอนให้เด็กๆ ให้ทราบถึงประโยชน์ การใช้งานอย่างระมัดระวังที่เหมาะสมกับวัย รวมถึงให้เด็กๆ ได้เรียนรู้วิธีการเข้าถึงเครือข่ายอินเทอร์เน็ตผ่านอุปกรณ์ แท็บเล็ต เพื่อใช้ค้นคว้าหาความรู้ และเล่นเกมส่งเสริมทักษะต่างๆ ซึ่งเป็นภาพบรรยากาศที่มีสีสันและเห็นถึงความสุขของทุกคนที่ได้มาเข้าร่วมกิจกรรม”
.
ส่วนนางสุรีพร พรโสภณวิชญ์ ผู้อำนวยการกองบริหารกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า “การจัดกิจกรรมในครั้งนี้นอกจากจะมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัล และโอกาสทางการศึกษาให้แก่นักเรียนในพื้นที่ห่างไกลมากขึ้นแล้ว ยังได้สร้างรอยยิ้มและขวัญกำลังใจ ด้วยการทำสาธารณะประโยชน์ เช่น ทาสีอาคารเรียน และมอบสิ่งของบริจาคที่จําเป็นแก่นักเรียนและชุมชนรอบข้าง ได้แก่ อุปกรณ์กีฬา เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ถุงเท้านักเรียน ข้าวสารอาหารแห้ง และขนม เป็นต้น รวมไปถึงการสนับสนุนของใช้ที่จําเป็นแก่โรงเรียน ได้แก่ อุปกรณ์เครื่องเขียน กระดาษสำหรับถ่ายเอกสาร อุปกรณ์ทำความสะอาดห้องน้ำห้องครัว และเจลแอลกอฮอล์ เป็นต้น เพื่อให้โรงเรียนนําไปต่อยอดบริหารจัดการในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของนักเรียนต่อไป”
.
ทั้งนี้ กิจกรรมสานฝันปันรักเพื่อน้อง เป็นส่วนหนึ่งของการดําเนินงานเพื่อสร้างความรับผิดชอบต่อสังคม ของ สดช. และกองทุนดิจิทัลฯ โดยนายภุชพงค์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “ขอขอบคุณผู้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมทุกท่าน ที่ได้ร่วมบริจาคสิ่งของมากับ สดช. น้ำใจจากทุกท่านที่ได้รวบรวมมาในวันนี้ ได้ส่งต่อให้น้องๆ เยาวชน ได้มี อุปกรณ์การเรียน และสิ่งของจําเป็นต่างๆ ไว้ใช้ทํากิจกรรมที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิต ซึ่งการจัดกิจกรรมในครั้งนี้มุ่งหวังให้เด็กนักเรียนและเยาวชน รวมถึงประชาชนทั่วไปได้รับทราบข้อมูลข่าวสาร เกิดการรับรู้ เข้าใจถึงบทบาทการดําเนินงานของ สดช. และขยายผลไปสู่การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างถูกต้องและเหมาะสม พร้อมทั้งยังได้ร่วมสนับสนุนการศึกษาและสังคม โดยจะมีการจัดกิจกรรมในพื้นที่อื่นต่อไป”


TRENDING
© Copyright 2022, All rights reserved. South Time Thailand
Take Me Top