Friday, 10 May 2024
น้ำท่วม

น้ำทะลักเข้าบ้านเรือนในซอยพะเนียง-สามกอง 1 ชาวบ้าน ชี้!! น้ำท่วมปีนี้หนักสุดในรอบหลายสิบปี

อ่วม! ท่วมครั้งที่ 6 ในรอบปี ชาวบ้านซอยพะเนียง และซอยสามกอง 1 จ.ภูเก็ต ยังเดือดร้อน ปริมาณน้ำที่ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนไม่ลด บอกปีนี้หนักที่สุด ในรอบหลายสิบปี บางส่วนย้ายหนีไปอยู่บ้านญาติชั่วครัว ทิ้งทรัพย์สินให้จมน้ำ

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในซอยพะเนียง และซอยสามกอง 1 ยังคงมีน้ำท่วมขังสูง 50-80 ซม. ในบางจุดไหลเข้าท่วมขังในบ้านเรือนของประชาชน ทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก บางรายที่มีเด็กเล็ก และผู้สูงอายุ ต้องย้ายออกไปอยู่ที่บ้านญาติชั่วคราว

ขณะเดียวกัน ยังพบว่ามีรถจักรยานยนต์หลายคันถูกจอดทิ้งอยู่ในน้ำ รวมถึงสิ่งของมีค่าอื่นๆ แม้ว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำเครื่องสูบน้ำมาสูบน้ำออกแต่ระดับน้ำลดลงอย่างช้าๆ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ลุ่ม และมีฝนตกลงมาเป็นระยะๆ ทำให้ยังมีมวลน้ำที่ไหลลงมาจากเนินเขาที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงเข้ามาพื้นที่ด้วย แต่หากฝนไม่ตกคาดว่าระดับน้ำจะแห้งภายใน 1-2 วันนี้

นายธนาธร แสงนาค ชาวบ้านซอยพะเนียง กล่าวว่า อาศัยอยู่ในซอยดังกล่าวมากว่า 30 ปี น้ำท่วมครั้งนี้ถือว่ารุนแรงมากที่สุด เพราะที่ผ่านมาแม้จะมีน้ำท่วม แต่จะท่วมอยู่บนพื้นถนน แต่ครั้งนี้ระดับน้ำสูงจนไหลเข้ามาในบ้าน และปัญหานี้ถือเป็นปัญหาซ้ำซาก ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ทราบดี เพราะทุกครั้งที่ฝนตกบริเวณนี้จะมีน้ำท่วมทุกครั้ง จนเกิดความรู้สึกหลอนทุกครั้งที่เห็นเมฆฝนตั้งเค้า

น้ำท่วมถนนเพชรเกษมย่านเขาหลัก เจ้าหน้าที่เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำ วอนปัญหาซ้ำซากให้กรมทางหลวงช่วยแก้ไขด่วน

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ (19 ตุลาคม 2565) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากมีฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดพังงาอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำไหลหลากเข้าท่วมถนนเพชรเกษมสายตะกั่วป่า-เขาหลัก จากบริเวณหน้าตลาดสด บขส.บางเนียง หมู่ 3 ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา จนถึงหน้าศูนย์การแพทย์เขาหลักระยะทางเกือบ1กิโลเมตร ทำให้รถจักรยานยนต์และรถเล็ก ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ทางเจ้าหน้าที่ สภ.เขาหลัก เทศบาลตำบลคึกคักและหน่วยกู้ภัยในพื้นที่ ต้องจัดการจราจรให้ใช้ช่องทางอีกฝั่งที่น้ำไม่ท่วมให้รถวิ่งสวนทางกัน ขณะที่ร้านค้าริมถนน ต้องเร่งขนของขึ้นที่สูง 

ล่าสุดทางนายสิริธร บัวแก้ว รองนายกเทศมนตรีตำบลคึกคัก พร้อมด้วยนายสงบ สะโตน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพังงา นำเจ้าหน้าที่เข้าติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมอย่างเร่งด่วน ขณะที่ในพื้นที่ยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งพบว่าจุดนี้เป็นจุดที่น้ำท่วมซ้ำซากอยู่เป็นประจำหากเกิดฝนตกหนัก เนื่องจากปัญหาการออกแบบก่อสร้างถนนของกรมทางหลวงที่ไม่มีระบบระบายน้ำที่ดีรับกับพื้นที่ จึงอยากวิงวอนให้กรมทางหลวงเข้ามาร่วมแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วน

ปิดถนน เข้า-ออกป่าตอง หลังดินถล่มเป็นวงกว้าง ขณะย่านเมืองเก่าน้ำเริ่มท่วมอีกรอบ

ปิดทางเข้า-ออก เนินเขาป่าตองแล้ว หลังดินจากภูเขาถล่มเนื่องจากอุ้มน้ำไม่ไหว ขณะที่ในพื้นที่ย่านเมืองเก่าภูเก็ต น้ำกลับเข้ามาท่วมอีกรอบ และเพิ่มระดับขึ้น ทาเจ้าหน้าที่เร่งแก้ปัญหา

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมและดินถล่ม ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต หลังมีฝนตกหนักต่อเนื่อง วันนี้ (19 ต.ค.) พบว่า มีดินถล่มและดินสไลด์เกิดขึ้นหลายจุด โดยเฉพาะ ตั้งแต่โค้งสนามยิงปืน ทางขึ้นเขาป่าตอง ก่อนถึงป้ายป่าตอง ซิตี้ พบว่ามีดินสไลด์ลงมาเป็นวงกว้าง ไม่สามารถให้รถผ่านไปมาได้ โดยขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ปิดถนนทางขึ้นป่าต้องทั้งขาเข้าและขาออกแล้ว

นอกจากนั้นยังมีเหตุดิน ที่บริเวณ เส้นทางกมลา-ป่าตอง บริเวณเขาหน้ายักษ์ ซึ่งมีเสาไฟฟ้าล้ม เนื่องจากดินสไลด์ลงมา ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่เร่งเคลียร์พื้นที่แล้ว

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในภูเก็ต พบว่าขณะนี้มีน้ำท่วมในพื้นที่ชั้นนอกและพื้นที่ชั้นในหลายจุด โดยเฉพาะในพื้นที่ย่านเมืองเก่า พบว่าปริมาณน้ำเริ่มที่จะไหลเข้าท่วมบริเวณสี่แยกโต้โพ้ และ สี่แยกแถวน้ำ รวมทั้งสี่แยกชาร์เตอร์ โดยเจ้าหน้าที่ปิดถนนบางส่วนเพื่อไม่ให้รถเข้าไปในพื้นที่ย่านเมืองเก่า

น้ำป่าโตนปลิวทะลักท่วมหมู่บ้าน มวลน้ำมาเร็วชาวบ้านตั้งตัวไม่ทัน ภาพรวม จ.สงขลา 'รัตภูมิ' หนักสุด!

น้ำป่าจากน้ำตกโตนปลิวทะลักเข้าท่วมหมู่บ้านในพื้นที่ ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มวลน้ำมาเร็วชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ทำให้บ้านหลายหลังถูกน้ำทะลักเข้าท่วม ขนย้ายสิ่งของแทบไม่ทัน ส่วนภาพรวมของน้ำท่วม จ.สงขลา พื้นที่ อ.รัตภูมิ หนักสุด ถูกน้ำป่าทะลักท่วมแล้ว 5 ตำบล

จากฝนที่ตกหนักในช่วงนี้ ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมในหลายอำเภอของ จ.สงขลา ล่าสุด เมื่อช่วง 3 ทุ่มที่ผ่านมา น้ำป่าจากน้ำตกโตนปลิว ซึ่งอยู่ในพื้นที่เทือกเขาแก้ว อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ได้ไหลบ่าเข้าท่วมในชุมชนบ้านกลาง หมู่ 1 ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา อย่างกะทันหัน เป็นมวลน้ำที่ไหลลงมาอย่างรวดเร็ว เข้าท่วมถนนในหมู่บ้าน และชาวบ้านส่วนใหญ่แทบไม่ทันเตรียมตัวรับมือ เพราะไม่คิดว่าจะมีน้ำป่าไหลเข้าท่วมเร็วขนาดนี้ ทำให้บ้านหลายหลังถูกน้ำทะลักเข้าท่วมถึงในบ้าน ต้องขนของย้ายขึ้นไปไว้บนที่สูง ที่นอนหมอนมุ้งเปียกโชกไปด้วยน้ำ

22 พฤศจิกายน พ.ศ.2531 ท่อนซุงและโคลนถล่ม ‘กะทูน’ อ.พิปูน โศกนาฏกรรมครั้งใหญ่จากภัยธรรมชาติ

ย้อนไปเมื่อ 34 ปีก่อน เกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่จากภัยธรรมชาติ หลังฝนตกหนักพัดพาดินโคลนและท่อนซุง ถล่มหมู่บ้านในตำบลกะทูน อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช คร่าชีวิตหลายร้อยคน

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2531 ที่ตำบลกะทูน อำเภอพิปูน จังหวัดนครศรีธรรมราช เกิดเหตการณ์ดินโคลนและท่อนซุงที่ไหลมากับน้ำถล่มบ้านเรือนเสียหายไปกว่า 1,500 หลัง พื้นที่การเกษตรอีก 6,150 ไร่ มีผู้เสียชีวิตถึง 700 คน ผู้คนที่รอดชีวิตต้องย้ายออกจากที่อยู่อาศัยเดิม และไม่สามารถกลับเข้าไปอยู่ได้อีก

ก่อนเกิดเหตุการณ์ครั้งนั้นราว 3-4 วัน ได้เกิดพายุดีเพรสชั่น มีฝนตกปรอยๆ ต่อเนื่องมาหลายวัน ทำให้ดินบนภูเขาซับน้ำไว้จนชุ่มโชก และเมื่อฝนยังเพิ่มปริมาณน้ำอีกไม่หยุด ดินที่รับน้ำหนักไว้มากจนเกินกำลัง ก็ลื่นไถลลงมาตามทางลาด ทำให้ดินที่อยู่ด้านล่างต้องถล่มลงมาด้วย พร้อมต้นไม้ป่าและต้นยางพาราที่ชาวบ้านขึ้นไปปลูกไว้บนเขาถูกถอนรากถอนโคน กลายเป็นอาวุธของกระแสน้ำกวาดบ้านเรือนและชีวิตผู้คนไปกับกระแสน้ำ อีกทั้งยังมีโคลนดินตามมาถล่มทับ

นอกจากนี้ ตำบลกะทูนซึ่งภูมิประเทศเป็นแอ่งรับน้ำมีพื้นที่ 70 ตารางกิโลเมตรนี้ มีลำธารหลายสายรับน้ำจากเชิงเขาโดยรอบมารวมลงในคลองกระทูน แต่มีทางน้ำไหลออกกว้างเพียง 70 เมตรเท่านั้น เมื่อถูกต้นไม้บนเขาและไม้ในสวนที่ชาวบ้านปลูกไหลมาปิดทางน้ำออก ระดับน้ำในแอ่งกะทูนจึงสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ฝังกลบทุกสิ่งทุกอย่างและทุกชีวิตไว้ใต้น้ำ

กอนช.พร้อมรับมือฝนภาคใต้ตอนล่าง ปรับลดการระบายน้ำเขื่อนบางลาง ป้องกันผลกระทบพื้นที่ท้ายน้ำ

กอนช.พร้อมรับมือฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ตอนล่าง ระดมกำลังเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก พร้อมคุมเข้มแผนบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำทุกขนาด ให้สอดคล้องสถานการณ์ ประเดิมปรับลดการระบายน้ำเขื่อนบางลาง หวั่นผลกระทบพื้นที่ท้ายน้ำ

ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เปิดเผยว่า ตามที่ กอนช. ได้ติดตามสถานการณ์และประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำด้วยฝนคาดการณ์ (ONE MAP) จากกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) พบว่า ช่วงวันที่ 8-11 ธ.ค.65 มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนล่าง และหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณเกาะบอร์เนียวจะเคลื่อนผ่านประเทศมาเลเซีย ทำให้บริเวณภาคใต้ตอนล่างจะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ตามประกาศ กอนช.ฉบับที่ 56/2565 โดยพบพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ ได้แก่ จ.นราธิวาส ยะลา ปัตตานี สตูล ตรัง สงขลา พัทลุง นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต และชุมพร รวมทั้งยังต้องติดตามเฝ้าระวังระดับน้ำแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขา ที่จะเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน ที่จะส่งผลให้เกิดน้ำล้นตลิ่ง ปัจจุบันพบสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งบริเวณ อ.เมือง จ.ชุมพร


TRENDING
© Copyright 2022, All rights reserved. South Time Thailand
Take Me Top