Saturday, 27 April 2024
อนุทิน_ชาญวีรกูล

'อนุทิน' ขอบคุณ อสม. ด่านหน้าดูแลสุขภาพคนไทย ยัน!! 'สาธารณสุข' มอบ 'สวัสดิการ-ดูแล' ต่อเนื่อง

(12 ม.ค.65) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ได้ติดตามสถานการณ์โรคอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่ประเทศไทยประกาศปรับระดับโรคโควิด19 เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง มาตั้งแต่ 1 ต.ค. 65 โดยภาพรวมขณะนี้ถือว่ายังดีขึ้นต่อเนื่อง และรายงานล่าสุดของกรมควบคุมโรค วันที่ 1-7 ม.ค. ที่ผ่านมา ระบุว่าทั่วประเทศมีผู้ป่วยรายใหม่ 997 คน หรือเฉลี่ยวันละ 142 คน นับว่าเป็นความสำเร็จจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน หน่วยงานของรัฐ เอกชน ภาคประชาชน เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และสาธารณสุข

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายอนุทินได้เน้นย้ำว่าความสำเร็จในการบริหารจัดการโควิด19 ของไทย มีส่วนสำคัญจากการทำงานหนักของบุคลากรทุกระดับ รวมถึงอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่เป็นกองหน้าในการช่วยดูแลสุขภาพคนไทยไปถึงชุมชนระดับฐานรากทั้งในช่วงเกิดโรคระบาดและสถานการณ์ปกติ และขอบคุณพี่น้องอสม. ที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและหน่วยงานต่างๆในการดูแลคนไทยมาโดยตลอด เป็นด่านหน้าคนแรกๆ ที่เข้าไปดูแลคนชุมชนหรือพื้นที่ห่างไกล ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขตระหนักถึงความสำคัญของพี่น้อง อสม. จึงได้เน้นย้ำถึงนโยบายการดูแลและมีสวัสดิการเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ อสม. ทั่วประเทศให้ต่อเนื่องสอดคล้องกับสถานการณ์ทั้งช่วงมีการแพร่ระบาดของโควิด19และสถานการณ์ปกติ

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุข มีสวัสดิการที่เป็นขวัญกำลังใจแก่ อสม.และอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร(อสส.) 1,050,306 คน อาทิ ค่าตอบแทนเดือนละ 1,000 บาท ในช่วงเกิดการแพร่ระบาดของโควิด19 คณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติให้เพิ่มเติมอีกเดือนละ 500 บาท เป็นเวลา 30 เดือน หรือ 2 ปีครึ่ง ตั้งแต่ มี.ค. 63- ก.ย. 65 รวมกว่า 15,000 ล้านบาท และมีสวัสดิการดูแลสุขภาพตามรายการตรวจสุขภาพประจำปี ภายใต้ระเบียบสาธารณสุข ว่าด้วยการช่วยเหลือในการรักษาพยาบาล เพื่อให้ อสม. ได้รับการตรวจสุขภาพตามช่วงวัย อาทิ การประเมินคัดกรองความดันโลหิต, ความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด(Thai CV risk score), ภาวะซึมเศร้า,ภาวะเครียด  สำหรับผู้มีอายุ 30 ปีขึ้นไป เพิ่มการตรวจความเข้มข้นระดับน้ำตาลในเลือด(FBS)ตรวจอุจจาระ (Stool examination)สำหรับผู้อยู่ในพื้นที่เสี่ยงพยาธิใบไม้ตับ และกรณีผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป สามารถเข้ารับบริการประเมินภาวะถดถอย 9 ด้าน

‘ไทย-อินเดีย’ กระชับความร่วมมือการวิจัย ยาและเวชภัณฑ์ รองนายกฯ อนุทิน หนุน 3 ประเด็นด้านสุขภาพเพิ่มจุดแข็ง 2 ประเทศ ชื่นชมอินเดียเป็นประธาน G20 ชูโลกหนึ่งเดียวไม่แบ่งแยกการพัฒนา

(18 ม.ค.66) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 66 ระหว่างเข้าร่วมการประชุม World Economic Forum (WEF) ที่เมืองดาวอส-คลอสเตอร์ สมาพันธรัฐสวิส นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ได้พบหารือกับ นายมานซุกร์ ลัคมาน มันดาวิยา (Mansukh Laxman Mandaviya) รมว.สวัสดิการสาธารณสุขและครอบครัว (Minister for Health and Family Welfare) และ รมว.เคมีภัณฑ์และปุ๋ย (Minister for Chemicals and Fertilizers) อินเดีย

นายอนุทิน และ นายมานซุกร์ ได้หารือถึงแนวทางที่ไทยและอินเดียจะกระชับความร่วมมือกันเพิ่มขึ้น ในประเด็นสาธารณสุข การวิจัย ยา และเวชภัณฑ์ จากปัจจุบันที่ 2 ประเทศมีความร่วมมือผ่านกรอบพหุภาคีและทวิภาคีต่างๆ ซึ่งเฉพาะความร่วมมือด้านสาธารณสุข ปัจจุบันไทยและอินเดียมีความร่วมมือผ่านบันทึกความร่วมมือ (MOU) 2 ฉบับ ได้แก่ MOU ระหว่างกรมการแพทย์และ Indian Council of Medical Research เพื่อร่วมกันการวิจัยทางสุขภาพและทางการแพทย์ และ MOU ระหว่างกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกกับสถาบันอายุรเวทแห่งชาติ เมืองชัยปุระ ในการร่วมมือทางวิชาการสาขาการแพทย์อายุรเวทและการแพทย์แผนไทย

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ระหว่างหารือนายอนุทินชื่นชมต่อประเด็นด้านสุขภาพ 3 ประเด็นที่รัฐบาลอินเดียกำลังให้ความสำคัญในขณะนี้ ซึ่งสอดคล้องกับการขับเคลื่อนด้านสุขภาพที่รัฐบาลไทยให้ความสำคัญ และมีความยินดีหากทั้ง 2 ประเทศจะได้ร่วมมือกันทั้ง 3 ประเด็น ได้แก่...

ขอแรงหนุน!! ‘อนุทิน’ ถก สหราชอาณาจักร ชวนลงทุนอีอีซี พร้อมช่วยหนุนไทยเป็นเจ้าภาพ Expo 2028 ที่ภูเก็ต

‘อนุทิน’ นำทีมคุย รัฐมนตรีช่วยการค้าสหราชอาณาจักร เล็งเพิ่มมูลค่านำเข้า-ส่งออก 2 ประเทศ ชวนลงทุนอีอีซี 3 ด้าน การแพทย์ ดิจิทัล เศรษฐกิจหมุนเวียน พร้อมขอเสียงสนับสนุนไทยเป็นเจ้าภาพ Expo 2028 Phuket Thailand

(20 ม.ค.66) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 66 ที่กระทรวงการค้าระหว่างประเทศ Department for International Trade (DIT) กรุงลอนดอน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ได้พบกับนาย Nigel Huddleston รมช.การค้าระหว่างประเทศ (Minister for International Trade) แห่งสหราชอาณาจักร เพื่อหารือในประเด็นความร่วมมือด้านการค้า เศรษฐกิจและการลงทุนระหว่าง 2 ประเทศ โดยมีคณะผู้แทนจากประเทศไทยเข้าร่วม อาทิ นายพลพีร์ สุวรรณฉวี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง นายธานี ทองภักดี เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงลอนดอน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า รองนายกรัฐมนตรีพร้อมคณะได้หารือในประเด็นการค้าที่ขณะนี้สหราชอาณาจักรถือเป็นคู่ค้าอันดับ 4 ในยุโรปสำหรับประเทศไทย ซึ่งประเทศไทยมีความมุ่งมั่นที่จะผลักดันให้มูลค่าทั้งการนำเข้าและส่งออกระหว่าง 2 ประเทศให้มากขึ้น ผ่านความร่วมมือที่ใกล้ชิดทั้งระดับรัฐบาลผ่าน คณะกรรมการร่วมเศรษฐกิจและการค้าไทย-สหราชอาณาจักร หรือ Thailand-UK Joint Economic and Trade Committee (JETCO) ตลอดจนความร่วมมือของเอกชนโดยสภาผู้นำธุรกิจไทย-สหราชอาณาจักร หรือ Thai-UK Business Leadership Council (TUBLC)

‘อนุทิน’ รุดประสานช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทันที หลังพบ อุบัติเหตุรถชนระหว่างทางกลับบ้าน

ไม่ปล่อยผ่าน! ‘อนุทิน’ พบอุบัติเหตุรถชน ระหว่างทางกลับบ้าน ก่อนลงไปช่วยให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บ รุดประสานส่งผู้บาดเจ็บถึงโรงพยาบาล

เมื่อ 22 มกราคม 2566 เวลา 22.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้เสร็จสิ้นภารกิจการลงพื้นที่พบปะประชาชน บริเวณชุมชนโรงปูน ห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร ระหว่างเดินทางกลับที่พัก ได้พบผู้ประสบอุบัติเหตุบนท้องถนน บริเวณปากซอยสาธุประดิษฐ์ 19 ถ.สาธุประดิษฐ์  พบผู้บาดเจ็บ ในที่เกิดเหตุ เป็นผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์บางคน นอนอยู่ที่ถนน ร้องด้วยความเจ็บปวด ไม่สามารถขยับตัวได้ นายอนุทิน ได้ลงจากรถ มาดูแลเหตุการณ์ และให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บ พร้อมเร่งประสานให้เจ้าหน้าที่มารับผู้ประสบอุบัติเหตุ ไปโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน  ล่าสุดผู้บาดเจ็บได้รับการช่วยเหลือที่โรงพยาบาลแล้ว

ที่มา : https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid02GFoGNzMUQg2dxrLXhNao3UEB5Kyxschpe5piTE1Yzj5o4RfP7c1FmSSA8xy5i5vFl&id=100045046695853&mibextid=Nif5oz

‘ลุงหนู’ ลั่น!! แนวทาง ภท. ‘ไม่พูด-ด้อยค่า’ นโยบายพรรคอื่น ชี้!! ถ้านโยบายของใครเป็นประโยชน์ พร้อมสนับสนุน

‘อนุทิน’ โว!! กระแส ‘ลุงหนู’ ไม่แพ้ ‘ลุงตู่-ลุงป้อม’ มั่นใจ ปักธง กทม. ลั่น!! ภท.พร้อมเสนอตัวแก้ปัญหาคนกรุง ยัน!! นโยบายค่ารถไฟฟ้าไม่เกิน 40 บาท ศึกษามาดีแล้ว แทงกั๊ก!! จับขั้วการเมือง ชี้!! ให้รอผลเลือกตั้งก่อน

(23 ม.ค.66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการเริ่มลงพื้นที่ในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า ในการลงพื้นที่ดังกล่าว เราได้ปราศรัยนโยบายที่พรรคภูมิใจไทยจัดทำ เวลาพูดอะไรไป ประชาชนก็ชอบใจ เพราะสิ่งที่พูดไปนั้นถูกใจเขา และจะลงไปพื้นที่อื่นด้วย เพราะเราตั้งใจจะส่งผู้สมัคร ส.ส.กทม.ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

ถ้าถามว่าคาดหวังเขตไหน ก็ต้องบอกว่าคาดหวังทุกเขต แต่ขึ้นอยู่กับหลายอย่าง ทั้งนโยบายพรรค ความแข็งแรง ความขยัน และความเป็นที่นิยมของผู้สมัคร ในแต่ละเขต เราจะทำให้ดีที่สุด

ผู้สื่อข่าวถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าจะสามารถปักธงได้ใน กทม. หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า มั่นใจ ต้องมั่นใจเพราะกรุงเทพฯ เป็นเมืองสำคัญ ซึ่งเราทำประโยชน์ให้กับจังหวัดอื่น ๆ ไปแล้ว เหลือแต่กรุงเทพฯ ที่พรรคภูมิใจไทย ยังไม่มี ส.ส. จึงอยากเสนอตัวเข้ามา เพราะถ้าเรามี ส.ส.ของเราเอง ก็คิดว่าจะสามารถแก้ปัญหาหลายอย่างได้ ในรูปแบบการร่วมมือทำงานให้เกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด ไม่ใช่ไปแข่งหรือแย่งกันทำงาน เพราะกทม.มีผู้ว่าราชการกรุงเทพ อยู่แล้ว เราก็แค่มาเสริม แบ่งเบาภาระ ประชาชนจะได้ประโยชน์สูงสุด

เมื่อถามว่าพรรคภูมิใจไทยจะมีนโยบายอะไรที่โดนใจคนกรุงเทพฯ เพราะพรรคอื่นก็ต้องการปักธง ส.ส.ใน กทม. เช่นเดียวกัน นายอนุทิน กล่าวว่า จะใช้ผลงานในช่วงที่เราเป็นรัฐบาล และได้ทำนโยบายที่ได้หาเสียงไว้ครั้งที่แล้วออกมาเป็นรูปธรรมได้แทบทุกนโยบาย และเราไม่ได้มีความขัดแย้งกับใคร ไม่ชอบและไม่เชื่อว่าความขัดแย้งจะทำให้ประเทศก้าวหน้าได้ แต่เชื่อว่าการทำงานและทำนโยบายให้ครบถ้วนจะทำให้บ้านเมืองได้ประโยชน์สูงสุด และแนวทางของพรรคภูมิใจไทย เวลาหาเสียง เราจะไม่พูดถึงพรรคอื่น ไม่ได้ด้อยค่านโยบายของใคร และถ้านโยบายของพรรคอื่นเป็นประโยชน์ ก็ควรสนับสนุนด้วยซ้ำ เพราะคิดว่าทุกคนปรารถนาดีที่จะทำงานให้กับบ้านเมือง และอุปสรรคใหญ่คือความขัดแย้ง การด้อยค่าและการพูดจาเสียดสีกันเป็นสิ่งที่คนที่อาสามาเป็นตัวแทนประชาชนไม่ควรทำ และถ้ามัวแต่ทะเลาะกัน จะหาความร่วมมือกันได้อย่างไร

เมื่อถามย้ำว่ามั่นใจหรือไม่ว่านโยบายเรื่องค่าโดยสารรถไฟฟ้าที่พรรคภูมิใจไทยได้นำเสนอแล้ว จะซื้อใจคนกรุงเทพฯ ได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า มั่นใจ เพราะ ช่วง 4 ปีที่ผ่านมา พรรคภูมิใจไทยกำกับดูแลกระทรวงคมนาคม เวลาที่พูดว่าค่าโดยสารจะไม่เกิน 40 บาท เราได้มีการศึกษาเรื่องการคุ้มค่าของการลงทุน และประโยชน์ของประชาชน อีกทั้งมีต้นแบบ มีข้อมูล ไม่ใช่มาพูดเพื่อให้ประชาชนรู้สึกดีแล้วมาเลือก คนที่บริหารบ้านเมืองมา 4 ปี ไปพูดชุ่ย ๆ ไม่ได้ แต่พูดโดยใช้ข้อมูลเป็นตัวประกอบ อาทิ มีการศึกษาราคาไม่เกิน 42-43 บาท เราก็หาวิธีการทำให้ราคาไม่เกิน 40 บาท เพื่อให้วิน-วินสำหรับประชาชนและผู้ประกอบการ ประชาชนจะขึ้นโดยสารกี่รอบก็ได้ และผู้ประกอบการไม่ขาดทุน เพราะการทำระบบขนส่งสาธารณะให้ประชาชน จะคิดแต่ได้กำไรมากไม่ได้ ถ้าขาดทุนเล็กน้อยหรืออยู่ตัว แต่เป็นประโยชน์กับประชาชน ก็ต้องทำให้ เพื่อให้ประชาชนลดต้นทุนการดำรงชีวิต มีรายได้เพิ่มขึ้นอีกแบบหนึ่ง

ขยายความเจริญ!! 'ลุงหนู' ไฟเขียว!! ร่างงบฯ ปี 67 แตะ 2.44 แสนล้านบาท ดันเมกะโปรเจ็กต์ หนุนแผนระบบขนส่งคมนาคม

‘อนุทิน’ นั่งหัวโต๊ะไฟเขียวร่างงบประมาณปี 67 กว่า 2.44 แสนล้านบาท ดันโครงการเมกะโปรเจ็กต์ หนุนแผนระบบขนส่งคมนาคม เร่งสรุปผลงบประมาณรายจ่าย ชงสำนักงบประมาณภายใน 27 ม.ค.นี้

24 ม.ค. 2566 – นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการจัดทำงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 คณะที่ 3.2 แผนงานบูรณาการพัฒนาด้านคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่างคำของบประมาณบูรณาการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 แผนงานบูรณาการพัฒนาด้านคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ จำนวน 108 โครงการ วงเงินรวมทั้งสิ้น 244,505.6705 ล้านบาท โดยเป็นการบูรณาการร่วมกันของ 7 กระทรวง 26 หน่วยงาน

ทั้งนี้แบ่งเป็น เป้าหมายที่ 1 จำนวน 11 หน่วยงาน สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม (สปค.)กรมทางหลวง (ทล.) กรมทางหลวงชนบท (ทช.)กรมเจ้าท่า (จท.) กรมท่าอากาศยาน (ทย.) กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) (กรมการขนส่งทางราง (ขร.) สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) (การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) รวม 88 โครงการ วงเงิน 243,660.1700 ล้านบาท คิดเป็น 99.65% มีโครงการที่สำคัญ ได้แก่ โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) M6 บางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา M81 บางใหญ่-กาญจนบุรี โครงการทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1065 สาย อ.พรานกระต่าย-พิษณุโลก

โครงการพัฒนาทาง และสะพานโครงข่ายทางหลวงชนบท สนับสนุนด้านคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ โครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จ.เชียงราย โครงการศูนย์ขนส่งชายแดน จ.นครพนม โครงการปรับปรุงท่าอากาศยาน 16 แห่ง โครงการทางพิเศษ (ด่วน) สายกระทู้-ป่าตอง จ.ภูเก็ต โครงการทางหลวงพิเศษฉลองรัช ส่วนต่อขยาย ช่วงจตุโชติ-ลำลูกกา โครงการออกแบบรายละเอียดงานโยธาโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค โครงการก่อสร้างทางรถไฟสายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม และสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ เป็นต้น

สำหรับป้าหมายที่ 2 จำนวน 15 หน่วยงาน (จท.) สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) สำนักงานสภาพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ (มว.) กรมวิชาการเกษตร กรมปศุสัตว์/กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ/กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน/สถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์การมหาชน) สถาบันพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) ม.พะเยา ม.เชียงใหม่ ม.บูรพา และ ม.เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา รวม 20 โครงการ วงเงิน 845.5005 ล้านบาท คิดเป็น 0.35% มีโครงการที่สำคัญ ได้แก่ โครงการพัฒนาและปรับปรุงระบบสารสนเทศเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานและการให้บริการประชาชนเพื่อรองรับงาน NSW

'อนุทิน' เปิด 'พรรคภูมิใจไทย' รับรอง 'ทูตอินเดีย' หารือประเด็น 'สาธารณสุข-การท่องเที่ยว-การเมือง'

เมื่อวานนี้ (24 ม.ค.66) ณ ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย นายนาเกช ซิงห์ (Nagesh Singh) เอกอัครราชทูตอินเดียประจำราชอาณาจักรไทย พร้อมคณะ เดินทางเข้าเยี่ยมคารวะ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย, นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรคภูมิใจไทย, นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนสมาชิกพรรคภูมิใจไทย และนายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ เพื่อแนะนำตัว และหารือถึงเรื่องต่าง ๆ ภายหลังรับตำแหน่งเอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย

สำหรับประเด็นที่มีการพูดคุย หารือแลกเปลี่ยน คือเรื่องสาธารณสุข รวมถึง MOU ด้านการสาธารณสุขระหว่างไทยและอินเดีย เรื่องการส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางหนึ่งที่นักท่องเที่ยวชาวอินเดียประสงค์ที่จะเดินทางมา ปัจจุบันพบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวอินเดียเดินทางมาประเทศไทยมากขึ้น

โดยเฉพาะผู้ที่จะเดินทางมาจัดงานมงคลสมรส ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ อาทิ เชียงใหม่, หัวหิน, ภูเก็ต ซึ่งถือเป็นตลาดที่น่าสนใจ เพราะการจัดงานจะปิดโรงแรม และใช้ระยะเวลา 3-4 วัน ทั้งนี้ หลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย คิดว่าการท่องเที่ยวจะมีจำนวนมากยิ่งขึ้น

'ลุงหนู' ลงพื้นที่โคราช พบ 'บุญจง' หลังรีเทิร์น พรรคภูมิใจไทย ชนเด็ก 'กำนันป้อ' ที่หอบกันไปย้ายซบเพื่อไทย

เมื่อวานนี้ (27ม.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ รมว. สาธารณสุข และ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้ลงพื้นที่นครราชสีมา และได้พบกับ นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ อดีต รมช.มหาดไทย

โดยมีรายงานว่า นายบุญจง จะสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยอีกครั้ง และลงสมัคร ส.ส. นครราชสีมา เขต 9 แข่งกับ นายอภิชา เลิศพชรกมล อดีต ส.ส.นครราชสีมา ที่พึ่งลาออกจากพรรคภูมิใจไทย พร้อม นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล อดีต รมช.คมนาคม ที่มีกระแสข่าวจะไปอยู่พรรคเพื่อไทย

ที่มา: https://mgronline.com/politics/detail/9660000008546

'ลุงหนู' ขอคนกรุงเชื่อมั่น!! 'พรรค ภท.' เลือกแต่คนมีของ ขอโอกาสได้ลองทำงานตามสไตล์พรรครับใช้กรุงเทพฯ

'อนุทิน' เสนอตัวทำงานให้คนกรุงเทพฯ ครั้งแรก ดึงส.ส.กรุงเทพฯ หวังแก้ปัญหาให้ สั่น พร้อมเป็นนายกฯ หาก ภท.ชนะเลือกตั้ง ไม่หวั่นเสียงส.ว. ระบุ ทำงานได้กับทุกคน แจง ปมย้าย 'หมอสุภัทร' ไม่ใช่หน้าที่รมต. พร้อมไม่เคยมองใครในกระทรวงเป็นเสี้ยนหนาม

(29 ม.ค.66) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ขณะลงพื้นที่บริเวณชุมชนวัดมะกอก เขตสามเสนใน กรุงเทพฯว่า การลงพื้นที่นี้ก็ถือเป็นการมาศึกษาปัญหาของพี่น้องที่อยู่ในชุมชนที่ตนเองเกี่ยวข้อง และแก้ปัญหาให้ถูกต้อง ซึ่งพรรคภูมิใจไทยเราก็เป็นครั้งแรกที่มาเสนอตัวเป็นตัวเลือกให้กับพี่น้องประชาชนคนกรุงเทพฯ โดยตนเชื่อว่าถ้าคนกรุงเทพฯ รู้จักพรรคภูมิใจไทยแล้วก็น่าจะชอบในสไตล์พรรคที่กล้าตัดสินใจ

โดยคนกรุงเทพฯ ก็คงได้เห็นสิ่งที่พรรคภูมิใจไทยทำไว้ทั่วประเทศที่ได้ให้สัญญาไว้เมื่อครั้งเลือกตั้งปี 2562 ในหลาย ๆ เรื่องเราก็ได้ส่วนงานที่เราเกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาให้กรุงเทพฯ ถึงแม้ว่าเราจะไม่มีส.ส.ในกรุงเทพฯ เลยก็ตาม วันนี้เราได้นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ และส.ส.หลายมา เชื่อว่าพรรคภูมิใจไทยจะผลักดันนโยบายและเจตนารมณ์ได้ด้วยสไตล์การทำงานของพรรคภูมิใจไทย พูดง่าย ๆ ว่าตอนนี้เรามีของ มีน้ำมีเนื้อ ไม่ใช่ว่าเอาใครก็ไม่รู้ที่เราไม่รู้จักกันมาเสนอให้คนกรุงเทพฯ แต่นี่เราเอาส.ส.กรุงเทพฯ มาเสนอจะได้ทำงานต่อเนื่องไป

เมื่อถามพรรคภูมิใจไทยในการเลือกตั้งที่ผ่านมาไม่ติด 1 ใน 4 ของกรุงเทพฯ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็สาเหตุนี้เราจึงต้องเชิญนายพุทธพงษ์ และส.ส.กรุงเทพฯ มาทำงาน เราเลือกส.ส.ที่เข้าใจ ปัญหาต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ และใกล้ชิดกับประชาชน

วันนี้ไม่ใช่ป่าล้อมเมืองแต่เป็นคนที่มีความตั้งใจที่จะทำงาน มีความคุ้นเคยกับกรุงเทพฯ ซึ่งก่อนหน้านี้พรรคภูมิใจไทยไม่เคยคุ้นเคย แต่วันนี้เรามีทีมที่จับต้องได้เข้าใจปัญหาจะได้มาช่วยกันทำงาน

เมื่อถามว่ามีคนมองว่าคะแนนฝั่งรัฐบาลอาจจะมีความรุนแรง นายอนุทิน กล่าวว่า ตนว่าพรรคภูมิใจไทยการเข้ามาในกรุงเทพฯ ครั้งนี้ก็ดีไปอย่าง เข้ามาแล้วเราไม่มีความขัดแย้งอะไรกับใคร และพรรคภูมิใจไทยก็แสดงให้ประชาชนเห็นแล้วว่าความรุนแรงไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้ ซึ่งพรรคเราใช้โอกาสสร้างงานสร้างรายได้ โดยพรรคภูมิใจจะทำทุกอย่างให้ ได้รับการแก้ไขด้วยเหตุและผลและด้วยลดกระบวนการทางรัฐสภา

เมื่อถามว่ามีหนึ่งพรรคที่จะไม่จับมือกับใครเรามองอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า เราพยายามที่จะไม่เป็นขั้วหรือเป็นฝั่งเป็นฝ่าย พรรคใดก็ตามที่ได้รับเลือกให้ส.ส.เข้ามาทำงาน โดยประชาชนเลือกเข้ามาเราต้องให้เกียรติประชาชน ซึ่งส.ส.ไม่ได้เป็นของพรรค แต่แค่ในนามพรรค ฉะนั้นเราให้ผลของการเลือกตั้งเป็นตัวตัดสินจะไม่ดีกว่าหรือ พรรคภูมิใจไทยเชื่อว่าถ้าประชาชนให้คะแนนกับพรรคการเมืองใดใดก็ตาม นั่นคือความต้องการของประชาชน


TRENDING
© Copyright 2022, All rights reserved. South Time Thailand
Take Me Top