Friday, 10 May 2024
Politics

'เสี่ยหนู' โยน ถาม ส.ว. ให้นั่งนายกฯ หรือไม่ หากภท.จัดตั้งรบ.สำเร็จ มีเสียงเหนือพปชร. - รทสช. พร้อมปฏิเสธสูตรนายกฯ คนละครึ่ง ลั่นต้องทำด้วยตัวเอง ไม่ขอเป็นทายาทใคร

(3 ม.ค. 65) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกระแสการวิเคราะห์ว่าพรรคภูมิใจไทยอาจได้เสียงมาเป็นอันดับ 1 ของขั้วรัฐบาลเดิม จะรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเลยหรือไม่ว่า เป็นเพียงการวิเคราะห์เท่านั้น ใครจะวิเคราะห์อย่างไรพรรคภูมิใจไทยก็จะเดินไปแบบนี้ ทำนโยบายแบบนี้ เราอาจจะไม่เด่นในเรื่องของพรรคที่มีกระแส เราก็ต้องเน้นเรื่องสมาชิกที่อยู่ใกล้ชิดชาวบ้าน ใกล้ชิดพื้นที่ ได้รับความเชื่อถือจากชาวบ้าน สมาชิกเหล่านี้ถือเป็นฟันเฟืองของพรรคภูมิใจไทย ในฐานะของผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นี่คือการที่พรรคภูมิใจไทยเข้าถึง และสื่อสารกับชาวบ้าน

ขณะเดียวกันชาวบ้านก็สื่อกับพรรคภูมิใจไทยผ่านสมาชิกเหล่านี้ ในเมื่อเราไม่ทราบว่ากระแสเราแข็งแรงขนาดไหน แต่อย่างน้อยเราก็มีสิ่งที่เชื่อมต่อกับประชาชนได้

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ถ้าพรรคภูมิใจไทยสามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และ ได้ส.ส.จำนวนมากกว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รสทช.) ที่คาดว่าชู พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม เป็นแคนดิเดตนายกฯ หรือ พรรคพลังประชารัฐ ที่คาดว่าชู พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เป็นแคนดิเดตนายกฯ นายอนุทิน จะเป็นนายกฯ หรือไม่ หรือจะดูบริบททางการเมืองประกอบด้วย

พร้อมตอบเรื่องงาน ‘อนุทิน’ เผย พร้อมแจงอภิปราย ม.152 ลั่น!! ทำงานเต็มที่ ไม่มีเสียหายต่อประชาชน

(3 ม.ค. 65) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเตรียมความพร้อมการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ภายใต้ยุทธการถอดหน้ากากคนดี ว่า ต้องเตรียมความพร้อม ต้องดูว่าผู้อภิปรายอภิปรายเรื่องอะไร หากอภิปรายเรื่องงานที่ทำมา ทุกอย่างก็พร้อมที่จะตอบ ตนคิดว่าพวกเราทำงานเต็มที่ ในส่วนที่รับผิดชอบไม่มีประเด็นอะไรที่ก่อให้เกิดความเสียหายกับพี่น้องประชาชน ฉะนั้น หากเป็นการอภิปรายกล่าวหา ก็ชี้แจงด้วยข้อเท็จจริง หากอภิปรายด้วยคำแนะนำก็ควรรับฟัง ถ้าเป็นประโยชน์ก็เอาไปช่วยปฏิบัติ

‘เสี่ยหนู’ ปฏิเสธข่าวจับมือกับทุกขั้วการเมือง ยัน!! ไม่เคยคุยกับใคร - รอผลเลือกตั้งอย่างเดียว

(3 ม.ค. 65) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกระแสข่าวที่พรรคภูมิใจไทยพร้อมจับมือกับทุกขั้วพรรคการเมือง ว่า เป็นเพียงการวิเคราะห์ของผู้สื่อข่าว ใครเขาจะออกมาให้สัมภาษณ์ จะพูดเช่นนั้นได้อย่างไร คนที่อยากเห็นบ้านเมืองเจริญก้าวหน้าก็ควรบอกว่าไม่ควรมีความขัดแย้ง ไม่ควรมีการแบ่งขั้ว ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจว่าทำไมผู้สื่อข่าวจึงเอาตนไปพูดว่าพร้อมจับมือกับทุกขั้ว ตนไม่เคยพูดสักคำ ตนพูดอยู่คำเดียวตลอดเวลา และย้ำมาตลอดหลายครั้งว่า ต้องรอผลเลือกตั้ง แล้วผลการเลือกตั้งจะเป็นตัวกำหนดว่าเราควรจะไปทางไหน

เมื่อถามว่า ไม่ปิดประตูสำหรับทุกด้าน ทุกฝ่ายใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราไม่นิยมความขัดแย้ง เราไม่ต้องการทะเลาะเบาะแว้งกับใคร เราไม่ต้องการสร้างความจงเกลียดจงชังระหว่างกัน ฉะนั้น ที่ดีที่สุดคือรอผลการเลือกตั้ง ตนต้องปฏิเสธข่าว 2-3 วันที่ผ่านมา ช่วงปีใหม่ไม่รู้ว่าจะไปแก้ข่าวอย่างไร

“ที่บอกว่าอนุทินไปเอ่ยชื่อพรรคก้าวไกล ไม่มีคำว่าก้าวไกลออกจากปากผมเลย จนถึงวินาทีนี้ แต่ละพรรคมีนโยบายอย่างไรก็เป็นเรื่องของแต่ละพรรค ส่วนแนวทาง ทิศทางของพรรคการเมือง ผมเชื่อว่าทุกพรรคก็ต้องรอผลการเลือกตั้ง” นายอนุทิน กล่าว

‘อนุทิน’ เผย ไม่ใส่ใจพรรคอื่นพูดให้ร้าย ภท. ลั่น!! เป็นหน้าที่ฝ่ายกฎหมายพรรค ‘พิจารณา - เอาผิด’

(10 ม.ค. 66) เมื่อเวลา 09.25 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทย เตรียมยื่นร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ตรวจสอบพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคเสรีรวมไทย เพื่อดำเนินการเอาผิดกรณีที่ใส่ร้ายป้ายสีหัวหน้าพรรค และพรรคภูมิใจไทย ว่า ตนไม่ได้ใส่ใจ แต่เป็นเรื่องฝ่ายกฎหมายของพรรคพิจารณาว่ามีการให้ร้าย หรือนำข้อมูลเท็จไปเผยแพร่ในสื่อสาธารณะ ทำให้เกิดความเข้าใจผิดและเสียหาย เอาผิดตั้งแต่คนโพสต์ คนพูด รวมไปถึงการพิจารณาถึงขั้นยุบพรรค

‘สิริพงศ์’ จี้ ยุบสภาฯ เหตุล่มบ่อย อัด ผลาญงบมหาศาล บี้ ฝ่ายค้าน-รัฐบาลเข้าประชุม เตรียมเดินหน้าผลักดัน กฎหมายกัญชา หาเสียงรอบหน้า หากไม่ผ่านวาระ 3

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 19 ม.ค. ที่รัฐสภา นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ล่มบ่อยครั้ง ซึ่งล่าสุดเป็นการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง (ฉบับที่…) พ.ศ… ก็ล่มอีกครั้ง ว่า เหตุสภาฯ ล่มเกิดขึ้นก่อนที่ร่างพ.ร.บ.กัญชาฯ เข้าสู่ที่ประชุม และเมื่อร่างพ.ร.บ.กัญชาฯ เข้าก็ล่มอีก เป็นการสูญเสียงบประมาณโดยใช่เหตุ เพราะการประชุมสภาฯ แต่ละสัปดาห์ สภาต้องจ่ายเงินให้กับสมาชิกที่เดินทางมาประชุมเป็นเงินจำนวนมาก ทั้งค่าใช้จ่ายเรื่องอาหาร และค่าใช้จ่ายของสภาฯ ด้วย ซึ่งถ้าเป็นลักษณะนี้ไม่คุ้มค่า และไม่สามารถทำงานได้ ตนมองว่าเหตุสภาฯ ล่มไม่ได้เป็นเฉพาะ ร่างพ.ร.บ.กัญชาฯ ก่อนหน้านี้ร่างพ.ร.บ.การศึกษาฯ ที่เป็นประชุมร่วมรัฐสภาก็ล่ม บรรยากาศแบบนี้เกิดขึ้นในช่วงปลายสมัยการประชุมสภา ตอนนี้มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตกับประชาชนยังค้างอยู่ เช่น กฎหมายประมง ร่างพ.ร.บ.ระบบราง ขณะนี้น่าจะมีสมาชิกจำนวนหนึ่งลงพื้นที่ และไม่อยากเกี่ยวข้องกับงานสภาฯแล้ว หากเป็นเช่นนี้ควรยุบสภาฯ และเดินหน้าสู่การเลือกตั้งใหม่ให้ประชาชนตัดสินใจ

เมื่อถามว่า ร่างพ.ร.บ.กัญชาฯ ไม่ผ่านในวาระ 3 หรือพิจารณาไม่ทันในสมัยประชุมนี้ พรรคภูมิใจไทยจะนำไปหาเสียงต่อหรือไม่ นายสิริพงศ์ กล่าวว่า ขณะนี้กัญชาก็ยังมีประกาศของกระทรวงสาธารณสุขควบคุมอยู่ เช่น การสูบในที่สาธารณะ การจำหน่ายกัญชาให้กับเยาวชน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่สามารถเอาผิดได้ แต่ในเรื่องรายละเอียดของการควบคุมที่จะปลูก ตนมองว่ากฎหมายยังมีความสำคัญและยืนยันว่าอย่างไรก็ต้องเดินหน้าออกกฎหมายควบคุมต่อไป

‘ภูมิใจไทย’ แชมป์พรรคการเมือง หลังได้รับเงินบริจาคมากที่สุด

เมื่อวันที่ 19 ม.ค.66 ที่ผ่านมา เว็บไซต์คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่บัญชีเงินบริจาคพรรคการเมือง ประจำเดือนพฤศจิกายน 2565 รวมทั้งหมด 14 พรรค โดยพรรคที่ได้รับเงินบริจาคสูงสุดคือ ‘พรรคภูมิใจไทย’ จำนวน 26,000,000 บาท รองลงมา คือ พรรคเพื่อไทย 16,000,000 บาท

ส่วน พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่มีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าพรรค และเพิ่งเปิดตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นสมาชิกพรรค เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2566 ได้รับบริจาค 3,000,000 บาท

สำหรับผู้บริจาคที่น่าสนใจของพรรคภูมิใจไทย พบว่า ปรากฏบริษัทเอกชนหลายรายร่วมบริจาค ได้แก่ หจก.น้ำก่ำก่อสร้าง ร่วมบริจาคสูงถึงจำนวน 10 ล้านบาท บริษัท บีเอสซี โอเปอเรชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด บริจาค 1 ล้านบาท บริษัท ธนาวิส 2020 จำกัด จำนวน 1 ล้านบาท

ขณะที่ นายนรเทพ อมรางกูร บริจาค 3 ล้านบาท น.ส.ทัศนีย์ โพธารส นายกำพล อัศวโชค น.ส.สุภัทรา สอนแตง และนายธวัช เบญจพลชัย บริจาคคนละ 2 ล้านบาท นายบุญส่ง ศิริมาศเกษม บริจาค 1 ล้านบาท

'อนุทิน' เปิด 'พรรคภูมิใจไทย' รับรอง 'ทูตอินเดีย' หารือประเด็น 'สาธารณสุข-การท่องเที่ยว-การเมือง'

เมื่อวานนี้ (24 ม.ค.66) ณ ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย นายนาเกช ซิงห์ (Nagesh Singh) เอกอัครราชทูตอินเดียประจำราชอาณาจักรไทย พร้อมคณะ เดินทางเข้าเยี่ยมคารวะ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย, นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรคภูมิใจไทย, นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนสมาชิกพรรคภูมิใจไทย และนายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ เพื่อแนะนำตัว และหารือถึงเรื่องต่าง ๆ ภายหลังรับตำแหน่งเอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย

สำหรับประเด็นที่มีการพูดคุย หารือแลกเปลี่ยน คือเรื่องสาธารณสุข รวมถึง MOU ด้านการสาธารณสุขระหว่างไทยและอินเดีย เรื่องการส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางหนึ่งที่นักท่องเที่ยวชาวอินเดียประสงค์ที่จะเดินทางมา ปัจจุบันพบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวอินเดียเดินทางมาประเทศไทยมากขึ้น

โดยเฉพาะผู้ที่จะเดินทางมาจัดงานมงคลสมรส ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ อาทิ เชียงใหม่, หัวหิน, ภูเก็ต ซึ่งถือเป็นตลาดที่น่าสนใจ เพราะการจัดงานจะปิดโรงแรม และใช้ระยะเวลา 3-4 วัน ทั้งนี้ หลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย คิดว่าการท่องเที่ยวจะมีจำนวนมากยิ่งขึ้น

นโยบายโดนใจ!! ‘ณัฐธิดา’ รองปธ. อบจ.ปทุมธานี สวมเสื้อ ภท. เผย ชื่นชอบนโยบายพรรค ‘พูดแล้วทำ’

‘ภูมิใจไทย’ เปิดบ้านต้อนรับ ‘หนึ่ง-ณัฐธิดา’ รองปธ.อบจ. ปทุมธานี เข้าเป็นสมาชิกพรรคอย่างเป็นทางการ เจ้าตัวบอกชื่นชอบนโยบายพรรค ‘พูดแล้วทำ’

เมื่อวันที่ 25 ม.ค. ที่พรรคภูมิใจไทย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี และรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย ให้การต้อนรับ น.ส.ณัฐธิดา เกียรติพัฒนาชัย สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี รองประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ลำดับที่ 1 เข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย และสวมเสื้อแจ็คเก็ตพรรคภูมิใจไทย

น.ส.ณัฐธิดา กล่าวว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เข้ามาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย เนื่องจากเป็นพรรคการเมืองที่ ‘พูดแล้วทำ’ ที่สำคัญคือให้โอกาสคนทำงาน ได้เข้ามาทำงาน เพื่อแก้ไขปัญหาปากท้องพี่น้องประชาชน เพราะมีนโยบายดีๆหลายอย่าง

‘ลุงหนู’ เผย พร้อมชี้แจงในเวทีซักฟอก ไม่หวั่นยุบสภาฯ เชื่อ!! พรรคร่วมฯ พร้อมเลือกตั้ง

(26 ม.ค.66) เมื่อเวลา 14.10 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ในวันที่ 15-16 ก.พ.นี้ ว่า เราพร้อมชี้แจง และทุกคนในคณะรัฐมนตรี ได้รับแจ้งให้ไปเตรียมความพร้อมในการชี้แจงต่อสภาเรียบร้อยแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่าการจัดสรรเวลา 8 ชั่วโมง ให้รัฐบาลเพียงพอหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นการตกลงกันระหว่างวิปทั้ง 2 ฝ่าย ต้องยอมรับ จะได้ไม่มีปัญหา

เมื่อถามว่าเวทีดังกล่าวเป็นการเปิดโอกาสให้รัฐบาลได้ชี้แจงผลการดำเนินงาน และจะถือโอกาสยุบสภาหลังจากนี้ หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า คิดว่ารัฐมนตรีที่ถูกพาดพิงคงต้องชี้แจง ไม่ใช่เป็นเรื่องถือโอกาสอะไร เพราะได้ชี้แจงในส่วนที่ถูกกล่าวหาให้เกิดความชัดเจนว่าไม่ได้เป็นไปตามนั้น ส่วนที่บอกว่าเป็นการพูดผลงานของตัวเอง ถ้าเกี่ยวข้องกับการอภิปรายก็เป็นสิทธิ์ของทั้ง 2 ฝ่าย ที่จะแถลงต่อที่ประชุมสภา 

ปกติของการเมือง ‘ลุงหนู’ เผย ‘ศักดิ์สยาม’ ไม่กังวล ปมยื่นฟ้องถอดตำแหน่ง ยัน ไม่ติดใจ ‘เพื่อไทย’ ไล่งับ เข้าใจเรื่องการเมือง

(26 ม.ค.66) เมื่อเวลา 14.10 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่พรรคเพื่อไทย ยื่นให้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังประธานศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยว่าความเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และสมาชิกภาพความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม สิ้นสุดลง เป็นการดิสเครดิตก่อนการเลือกตั้งหรือไม่ ว่า นายศักดิ์สยาม ชี้แจงไปแล้วในประเด็นนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ฝ่ายค้านเคยอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อเดือน ก.ย.65 และนายศักดิ์สยาม ชี้แจงข้อกล่าวหาในสภาไปแล้ว และสิ่งที่พิสูจน์ได้คือ นายศักดิ์สยาม ได้รับคะแนนไว้วางใจในประเด็นที่ถูกกล่าวหา คะแนนห่างกับคะแนนไม่ไว้วางใจเป็นร้อยคะแนน จึงน่าจะโอเค ส่วนเรื่องที่จะไปยื่นอะไรเป็นสิทธิ์ตามกฎหมาย หากอยู่ภายใต้กฎหมายสามารถยื่นได้ 

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าเป็นการดิสเครดิตกันหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ประชาชนที่ติดตามอย่างใกล้ชิดจะพิจารณาได้ว่าวัตถุประสงค์เป็นอย่างไร 


TRENDING
© Copyright 2022, All rights reserved. South Time Thailand
Take Me Top